ผู้บริหาร 'เมพ คอร์ปอเรชั่น' แนะทางออกของสื่อสิ่งพิมพ์ หันมาใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์หรือออนไลน์ให้มากขึ้น ชูจุดเด่นและคุณค่าของเนื้อหา รองรับพฤติกรรมผู้บริโภค ชี้สื่อที่มีเนื้อหาเฉพาะทางจะได้เปรียบกว่าสื่อเนื้อหาทั่วไป

นายรวิวร มะหะสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมพ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันขายหนังสือออนไลน์ หรือ E-Book ระบุกรณีนิตยสารชื่อดัง ประกาศปิดตัวลงในเดือนนี้ (ธ.ค) เป็นผลมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาเสพสื่อบนออนไลน์มากขึ้น เพราะมีความสะดวกและรวดเร็ว 

และเห็นว่า การที่ไทยมี E-Book ไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ต้องปิดตัว แต่เป็นโอกาสของคนทำหนังสือที่ทำให้คนอ่านมีตัวเลือกมากขึ้น ซึ่งโดยพื้นฐานธุรกิจหนังสือส่วนใหญ่ อยู่ที่นักเขียน คนสร้างเนื้อหา หากหนังสือปิดตัว คนกลุ่มนี้ก็ยังอยู่ได้ เพราะมีความสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ต่อเนื่อง 

ทางออกของสื่อสิ่งพิมพ์ จึงต้องอาศัยเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ หรือปรับตัวเข้าหาออนไลน์ และสื่อที่มีเนื้อหาเฉพาะหรือเนื้อหาเชิงลึก จะได้เปรียบกว่าสื่อที่มีเนื้อหาทั่วไปหรือวาไรตี้

ล่าสุดมีนิตยสาร 2 ฉบับ ที่ปิดตัวในเดือนนี้ คือ ดิฉัน และคู่สร้างคู่สม โดยนายดำรง พุฒตาล ผู้บริหารบริษัท คู่สร้างคู่สม เปิดเผยผ่านรายการมองรอบด้านสุดสัปดาห์ ทางช่อง TNN24 ถึงเหตุผลในการปิดตัวนิตยสารหลังตีพิมพ์และวางจำหน่ายมา 38 ปี เป็นเพราะไม่สามารถต้านกระแสโซเซียลมีเดีย และยังพบการลอกเนื้อหาในสื่อออนไลน์มากขึ้น พร้อมยืนยัน จะไม่ทำสื่อออนไลน์ เพราะอายุมากแล้ว และต้องการปล่อยวาง 

ทั้งนี้ The MATTER ได้เรียบเรียงนิตยสารที่ทยอยปิดตัวในปีนี้ 

• MARIE CLAIRE (13 ปี) ปิดเดือน เม.ย.
• เนชั่นสุดสัปดาห์ (25 ปี) ปิดเดือน มิ.ย.
• Go Genius (25 ปี) ปิดเดือน มิ.ย.
• ครัว (24 ปี) ปิดเดือน ก.ค.
• FILMAX (10 ปี) ปิดเดือน ก.ค.
• Health & Cuisine (16 ปี) ปิดเดือน ส.ค.
• The Hollywood Reporter Thailand (3 ปี) ปิดเดือน ก.ย.
• ขวัญเรือน (49 ปี) ปิดเดือน ธ.ค.
• ดิฉัน (37 ปี) ปิดเดือน ธ.ค.
• คู่สร้างคู่สม (37 ปี) ปิดเดือน ธ.ค.