รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563
“คำผกา” ร่ายสาเหตุที่ทำคนมาไล่ “ประยุทธ์” หลังเจ้าตัว พูดซ้ำซาก “ไล่ทำไม ไม่ได้ทำผิด” แถมลั่น “ขอฟังแค่ศาล” เอาแค่ผลงานไม่เป็นโล้เป็นพาย ทั้งที่ช่วง คสช. มีอำนาจล้นฟ้าจาก ม.44 แต่คนไม่ได้อยู่ดี กินดี
งานนี้ “ประยุทธ์” ยังปากกล้าบอก พวกเบื่อขี้หน้า โยนความผิดให้ เพียงเพราะอยู่นาน ...งั้นแอดขอถามคุณผู้ชมบอกหน่อยว่า 4-6 ปีที่ผ่านมา มีอะไรดีขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบประชาชน ที่วัดพระเจดีย์แหลมสอ อ.เกาะสมุย โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า นายกฯ ไปที่ไหนก็นึกแต่ประชาชนของเรา เพราะเราคือคนไทยด้วยกันทั้งประเทศ ขอส่งความห่วงใยไปยังจังหวัดอื่นๆ ด้วย วันนี้มารับฟังความเห็นและปัญหาเพื่อนำไปขับเคลื่อนไปด้วยกัน ที่ผ่านมาพยายามดำเนินการหลายอย่างก่อนมีโควิด ทำหลายอย่างเพื่อวางพื้นฐานทุกจังหวัด แต่วันนี้ไม่สบายใจเพราะครั้งที่แล้วที่เคยมา กับวันนี้เปลี่ยนไปเยอะ ความเงียบเหงาธุรกิจร้านค้า ทำให้นายกฯ เจ็บ ปวดหัวใจ และเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาเพื่อทำให้การท่องเที่ยวภาคใต้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จึงมาประชุมครม.ในพื้นที่ และได้ให้ ครม.กระจายพื้นที่ไปเยี่ยมเยือน ตรวจติดตามปัญหาในนามพรรคร่วมรัฐบาล
พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า นายกฯ และครม.ห่วงใยทุกเรื่องทั้งสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ที่ระยะแรกจำเป็นต้องล็อคดาวน์ ทำให้การแก้โควิดของเราเป็นอันดับแรกๆ ของโลก ดังนั้นการที่รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศทั้งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ควบคุมโรค ทั้งหมดไม่ใช่เพื่อตัวเอง ไม่ได้อยากออกในหลายๆ เรื่อง และไม่ได้เพื่อเอาอำนาจมาให้ตัวเอง แต่เอาอำนาจให้เจ้าหน้าที่เพื่อบูรณาการให้ทุกส่วนทำงาน
โดยจะผ่อนคลายปลดล็อคระยะแรกก่อน วันนี้มีอาเซียนและจีนเข้ามาในระยะแรก ต่อไปก็จะมากขึ้นในอนาคต จึงต้องเตรียมการเป็นขั้นตอน หากปล่อยทีเดียวหมดมีโอกาสซุปเปอร์สเปรดเดอร์ ต้องดูขีดความสามารถในการรับมือด้านสาธารณสุขของเรา วันนี้เรามีความพร้อมหมดแล้ว วางแผนทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในแบบที่ไม่จำเป็น โดยการไม่ระมัดระวัง ไม่ใส่หน้ากาก ไม่เข้าพื้นที่ชุมนุมขนาดใหญ่"
ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ต้องช่วยกัน ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็เจอทุกปัญหา แต่เชื่อว่าทุกปัญหาแก้ได้ อะไรที่ทำให้เดือดร้อนนายกฯ ต้องขอโทษด้วย ทุกอย่างไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อทุกคน เพื่อไม่ให้สถานการณ์กลับไปล็อคดาวน์อีก ประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น แต่ทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังให้ดีที่สุด ซึ่งมาตรการคัดกรองมีหมดแล้ว ส่วนสถานการณ์อื่น โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องบริหารภาพรวมประเทศวันนี้ภาพใหญ่เริ่มดีขึ้น รัฐบาลพยายามดูให้ครบทุกกลุ่มที่เป็นห่วงโซ่ ทุกอย่างเชื่อมกันทั้งหมด ที่สำคัญประเทศมีศักยภาพ รอยยิ้ม อาหารที่อร่อย ธรรมชาติที่สวยงาม และความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี นี่คือคนไทยและประเทศไทย เราต้องภูมิใจและอย่าทำลายด้วยอะไรที่ไม่จำเป็น
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอีกว่า ขอให้ลองทบทวนที่ผ่านมา 4-6 ปี มีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง มองภาพรวมเหมือนต่างประเทศที่ให้มองไกลตัวด้วย ส่วนใหญ่มักมองใกล้ตัว โดยต้องเตรียมการตั้งแต่วันนี้ เพื่อลูกหลานของเราวันหน้า ทั้งนี้ทุกคนมีความคิดที่แตกต่าง แต่การปรับเปลี่ยนต่างๆ ไม่ง่ายเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ แต่ถ้าเรารวมใจไทยสร้างชาติ ไม่ว่าใครทำอะไรถ้าดี สนับสนุน โดยต้องเป็นไปตามกฎหมายถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่เพื่อผู้ใดผู้หนึ่ง
"บางคนบอกนายกฯ มีปัญหานู่นนี่ร่ำรวย ทุจริต เขาวัดกันด้วยอะไร เขาวัดกันด้วยการดำเนินคดี การตัดสินของศาล / ผมก็ยังไม่เห็นผมทำอะไรผิดสักอย่าง บางคนบอกผมผิดเพราะผมอยู่นานเกินไป เบื่อขี้หน้า ผมไม่รู้เหมือนกัน อยู่ในกติกาข้อไหนของการเมืองไทย แต่ผมก็ไม่ว่า หลายคนบอกผมผิดนู้นผิดนี่ ผมไม่ว่าอะไร ผมฟังเฉพาะศาล"
วันนี้อยู่ในโลกดิจิตอล ไม่ได้ห้ามอ่าน/ห้ามฟัง แต่ถ้าจะเชื่อทุกอย่างเป็นเรื่องของพวกท่าน มันควรจะเชื่อทุกอย่างหรือไม่ที่เขียนลงไป บางทีไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เรื่องที่เป็นสาระกลับไม่สนใจ แต่วันนี้ห้ามไม่ได้เป็นเรื่องของสังคมโลกยุคใหม่ ประเทศไทยมีแกนหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราเกิดบนแผ่นดินไทย อย่าให้ใครทำลาย / รัฐบาล ข้าราชการ ทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์และประชาชน เราเป็นประชาธิปไตยอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยสักอัน นั่งๆ กันอยู่ก็เลือกตั้งมาทั้งนั้น คนที่เลือกคือประชาชน ทุกอย่างเคยมีประวัติศาสตร์ ถ้าจะปรับแก้อะไรก็ต้องดูประวัติศาสตร์ จะได้ไม่เกิดขึ้นอีกแค่นั้น
หากวันหน้าทุกอย่างเรียบร้อยก็จะเป็นไปตามที่ต้องการ แต่ต้องมีกติกา หลักเกณฑ์ สังคมสำคัญที่สุดครอบครัว ลูกเต้าต้องดูแล วันนี้เราอาจดูแลลูกเต้าน้อยลง พ่อต้องหาเงินให้สอดคล้องกับความต้องการ แต่ลูกเต้าก็ต้องสอนรู้จักพอเพียงไม่เช่นนั้น พ่อแม่จะเป็นหนี้สินปัญหาตามมามากมายโดยเฉพาะหนี้นอกระบบ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังร้องเพลง "คนดีไม่มีวันตาย" ร่วมกับประชาชน จากนั้นร่วมกิจกรรมกวนกาละแม ที่คนในพื้นที่จัดสาทิตต้อนรับ มีประชาชนขอให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่รักษาบ้านเมืองไปนานๆ ดูแลประชาชน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบกลับว่า Yes sir และมีประชาชนตอบกลับว่าจะดูแลพล.อ.ประยุทธ์เช่นกัน
ช่วงเย็น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ตรวจเยี่ยมมาตรการ และชมการสาธิตขั้นตอนคัดกรองนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วงหนึ่งระบุว่า หากเกิดปัญหา ไม่ว่าจากไหนทุกคนต้องช่วยติดตามตรวจสอบ และหามาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ส่วนมาตรการกักตัว 14 วัน ต้องเตรียมเรื่องที่พัก เพราะโรงแรมมีจำกัด ต้องหาทางแก้ในส่วนนี้ จึงขออย่าจับผิดกันไปกันมา ขอให้เชื่อมั่น แพทย์และสาธารณสุขของเรา เป็นอันดับ 1 ของโลกในขณะนี้ จึงขอให้เห็นใจกัน เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน ขอให้บ้านเมืองเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย