รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 8 ตุลาคม 2563

นักวิเคราะห์ Talking Thailand มองสารพัดปัญหาในวงการทหาร! ย้ำชัด! หลังเกิดเหตุกราดยิงโคราช รับปากไว้ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรดีขึ้น จนมาเกิดเหตุไปรับจ็อบเป็นการ์ด ก็ถูกลงโทษ บอกขัดคำสั่งกองทัพ ทั้งที่ “การ์ด” เป็นอาชีพสุจริต ที่ต้องแยกประเด็นออกจากความผิดทะเลาะวิวาท แถมยังมีทหารขนยาบ้า

สะท้อน “ประยุทธ์-อภิรัชต์” รู้ปัญหาแต่ไม่คิดออกแบบให้ผู้น้อยอยู่ดีมีสุข!

ความคืบหน้าคดีการ์ด ร้านป.กุ้งเผา สาขาหลักสี่-สะพานใหม่ รุมทำร้ายลูกค้าจนบาดเจ็บ 3 ราย จำนวนนี้เป็นตำรวจ 2 นายนั้น / พล.ต.ต.พัฒนา เพศยนาวิน ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 กล่าวว่า ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวครบแล้ว 13 คน เป็นทหารบกชั้นประทวนที่มาทำงานรักษาความปลอดภัยนอกเวลาราชการ 6 นาย และเป็นพลเรือน 7 คน โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ ทั้งหมดรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนปล่อยตัวกลับ และในวันที่ 9 ต.ค. พนักงานสอบสวนจะนัดหมายทั้ง 13 คน ไปส่งฟ้องต่อศาลแขวงดอนเมือง ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้บาดเจ็บ // นอกจากนี้ยังพบว่าร้าน ป.กุ้งเผา สาขาที่เกิดเหตุ ไม่มีใบอนุญาตสถานประกอบการ จึงสั่งปิด และเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหากระทบกระทั่ง ระหว่างทหารกับตำรวจ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า จากการตรวจสอบกำลังพลในสังกัด ตามที่ ก.กลาโหม มอบให้เหล่าทัพดำเนินการ พบว่ากำลังพลเป็นนายทหารชั้นประทวน 3 นาย สังกัดกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยรับว่าไปทำงานพิเศษนอกเวลาราชการ และอยู่ในเหตุการณ์

“ในขั้นต้นหน่วยต้นสังกัด ตั้งคณะกรรมการสอบฯ และพิจารณาทัณฑ์ขั้นต้นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับประสานอำนวยการทางคดี ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย ขณะนี้กำลังพลทั้ง 3 นาย ถูกลงโทษทางวินัยตามธรรมเนียมทหารด้วยการจำขัง 14 วัน และบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะอีก 7 วัน”

และระบุว่า ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นพฤติกรรมผิดวินัยทหาร ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะการไปทำงานพิเศษที่มีลักษณะไม่เหมาะ -สม ขัดต่อ “คำสั่งกองทัพบกที่ 1301/2534 เรื่อง ห้ามกำลังพลเกี่ยวข้องกับสถานเริงรมย์และแหล่งอบายมุข” มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง กระทบภาพลักษณ์หน่วยงานโดยรวม ที่ต้องดำเนินการทั้งทางกฎหมายและทางวินัยควบคู่กันไป โดยกองทัพบกมีนโยบายชัดเจน ให้กำลังพลประพฤติปฏิบัติตน อยู่ในระเบียบวินัย เป็นพลเมืองที่ดี เชื่อว่าสังคมจะเข้าใจว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล และกองทัพบกได้ดำเนินการเรื่องนี้ตามข้อเท็จจริง เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีอุบัติเหตุรถยนต์ที่ทำให้ จ่าสิบโทนาวิน ปานดำ ทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17 จังหวัดเชียงราย บาดเจ็บ พร้อมภรรยาและลูก เหตุเกิดที่ ต.ไผ่รอบ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ก่อนที่ตำรวจจะพบ ยาบ้า 4 แสนเม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีขาวขนาดใหญ่ 2 ถุง รวมถึงตรวจยึดยาบ้าที่ส่งวางตามจุด อีก 3 แสน เม็ด รวม 7 แสนเม็ด  ตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐาน พร้อมอายัดและควบคุมตัวผู้ต้องหาที่บาดเจ็บ ไว้สอบสวน 

ผู้สื่อข่าวในพื้นที่ รายงานว่า วันนี้ (8 ต.ค.) นายทหารพระธรรมนูญ จากกองทัพภาคที่ 3 และ จากค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย เดินทางมาร่วมสอบสวน ที่ สภ.โพธิ์ประทับช้าง เพื่อตรวจสอบเครือข่ายของยาเสพติดที่ได้ขนส่งตามจุดทิ้งยาเสพติด

มีรายงานว่า ตำรวจคาดว่ายาบ้าที่ตรวจยึดมาทั้งหมด 4 กระสอบ 7 แสนเม็ด เป็น ของเครือข่ายแกงค์ “มันทุกเม็ด” ที่มีเครือข่ายใหญ่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน และควบคุมผู้ต้องหา 2 คน (จ่าสิบโทนาวินและภรรยา) ข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท1 หรือยาบ้า ไว้จำหน่ายและครอบครอง โดยตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6และตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร จะรวบรวมข้อมูล เพื่อทำการขยายผล เครือข่ายของยาเสพติดชุดนี้ต่อไป 

ก่อนหน้านี้ จ่าสิบโทนาวิน กล่าวรับสารภาพว่ารับจ้างขนยาบ้ามาจาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยทิ้งตามจุดนัดหมาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุ เกิดหลับในจากความอ่อนเพลียหลังขับรถทางไกล รถเสียหลักตกข้างทาง จนถูกตรวจพบยาในที่สุดขณะที่ วันนี้

ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เอกสารการทุจริตเบี้ยเลี้ยงเดินทางไปราชการ ทั้งที่ไม่มีการเดินทางจริง ชื่อผมถูกนำไปใส่ บังคับให้ลงลายมือชื่อเบิกเงิน นี่แค่เบี้ยเลี้ยงนะ แล้วน้ำมันที่ใช้เดินทางอีก มันหายไปไหน อยู่กับใคร โกงกันยันเงา นี่แค่หน่วยเดียว แล้วทั้งกองทัพบกมีกี่หน่วย ทำกันมาทุกปี จนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กร ประเทศชาติเสียหายเท่าไหร่แล้ว ใครไม่ร่วมการทุจริตก็ถูกกลั่นแกล้งทางวินัย สุดท้ายก็โดนปลดออกพร้อมกับการดำเนินคดีอีกด้วย #ปฏิรูปกองทัพ #นั่นมันภาษีประชาชน

ก่อนที่จะโพสต์อีกว่า เอาให้หมดครับ ภาษีประชาชนมันหอมหวาน ยิ่งยศใหญ่ยิ่งรวย ตาสว่างกันได้หรือยังครับพ่อแม่พี่น้อง นี่หรืิอกองทัพบกผู้ซึ่งได้รับรางวัลจาก ป.ป.ช. ว่าโปร่งใสที่สุดในแผ่นดินไทย #ปฏิรูปกองทัพ #คืนความยุติธรรมและคืนภาษีให้ประชาชน