ไม่พบผลการค้นหา
เอนกชี้อุดมการณ์สำคัญไม่แพ้นโยบาย เพราะคือหลักการทำงานของพรรครวมพลังประชาชาติไทย แย้มให้ทุกคนจับตาดู ส.ส.บัญชีรายชื่อ รปช.ที่จะไปยื่นให้ กกต.ในวันที่ 7 ก.พ. จะสร้างปรากฏการณ์

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย กล่าวว่า พรรคเราสนับสนุนให้มิตรสหาย สื่อ และผู้สนใจได้เปรียบเทียบอุดมการณ์ของเรา รวมพลังประชาชาติไทยกับพรรคอื่นๆ เพราะอุดมการณ์นั้นเป็นหัวใจของพรรคที่มีคุณภาพ ที่จริงอุดมการณ์นั้นสำคัญกว่านโยบาย โดยอุดมการณ์คือภาพรวม คือโลกทรรศน์ คือการมองโลก ประเทศ ประชาชน อย่างเป็นองค์รวม มองเห็นโอกาส เห็นภยันตราย เห็นพลัง เห็นโอกาส และจุดอ่อน ของสังคม และกำหนดว่ามีหลักการสำคัญอะไรที่พรรคต้องยึดมั่น และจะนำไปแปรเป็นแนวนโยบายในด้านต่างๆ

ส่วนฝรั่งนั้นมักแบ่งพรรคตามอุดมการณ์มาตรฐาน เช่น ซ้ายหรือขวา อนุรักษ์นิยม หรือเสรีนิยม หรือสังคมนิยม และสวัสดิการนิยม หรือ กระทั่ง ชาตินิยม ประชานิยม เป็นต้น ถามว่าพรรคเราเป็นซ้ายหรือเป็นขวา ตอบแบบฝรั่งไม่ได้ครับ เพราะเราไม่ได้ลอกวิธีคิดแบบฝรั่งมาทั้งดุ้น ก่อนอื่นเราไม่ใช่ขวาเพราะเราไม่ให้ตลาดเป็นเป้าหมาย ไม่ให้กำไรหรือกำไรสูงสุดของธุรกิจเป็นเป้าหมาย เราใช้ตลาดเป็นเพียงวิธีการ แต่ยังมีเศรษฐกิจพอเพียง เราเน้นชุมชน-ครัวเรือน-สหกรณ์ มุ่งแก้ปัญหาปากท้อง ทุ่มเทให้เศรษฐกิจชาวบ้านด้วย น้ำหนักที่เราให้กับเศรษฐกิจที่ไม่ใช่ ทุนนิยมแบบปกติ จึงสูงมากจนไม่ใช่ขวา 

อย่างไรก็ตาม เราก็มิใช่ฝ่ายซ้าย เพราะเรามุ่งปกปักรักษาและพัฒนาของเก่า สถาบันเก่า ขนบ และแบบแผนเก่า ความคิดเก่าที่เป็นของไทย ด้วยความภาคภูมิใจ เราไม่ใช่คน 'ชังชาติ' 'ชังความเป็นไทย' แต่สิ่งใด อะไร ที่เป็นของเก่าที่ไม่ดี เราก็ไม่เก็บ อย่างไรก็ดี บ้านเมืองเรานั้นมีของดี ความคิดที่ดี สถาบันที่ดีไม่น้อยที่เราหวงแหน รักษา ชื่นชม และศรัทธา โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์ 

ดังนั้นชาติบ้านเมืองเรานั้นแตกต่างไปจากประเทศตะวันออกอื่นๆ ทั้งหลายมาก สถาบันพระมหากษัตริย์ของเรานั้น ใช้ภาษาคนรุ่นใหม่เวิร์กครับ นำพาเราให้พ้นภัย อาณานิคมตะวันตกได้ จักรพรรดิ์ กษัตริย์และอำมาตย์ของจีน ของอินเดีย หรือของพม่าที่ตีอยุธยาแตกมาแล้ว หรือของเพื่อนบ้านอื่นๆ ในภูมิภาคล้วนพ่ายแพ้ ล้วนต้องเสียประเทศให้แก่ฝรั่งมาแล้ว

โดยพระมหากษัตริย์ในสมัยประชาธิปไตย ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจนำพาประเทศผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยแทบไม่มีใครล้มตาย ผ่านสงครามเย็นกว่าสี่สิบปี และยังผ่านสงครามอินโดจีนครั้งสุดท้ายที่เวียดนามบุกมาประชิดชายแดนไทยด้านเขมร ผ่านภัยร้อนร้ายมาได้ แทบไม่เสียหายอะไร

ใน 70 ปีของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 นั้น สถาบันที่ชอบธรรมอยู่ต่อเนื่อง เป็นความภูมิใจ เป็นที่ยอมรับของคนไทยมากที่สุด ก็คือ พระมหากษัตริย์ เช่นนี้แล้วพรรคเราจึงมีอุดมการณ์ที่จะน้อมรับพระบรมราชวินิจฉัย และพระราชปรีชาญาณเสมอ ตระหนักยิ่งในพระบรมเดชานุภาพ และพระบุญญาบารมีของพระเจ้าอยู่หัว เราเชื่อมั่นใน “ธรรมราชาธิปไตย” ครับ

ตรงข้าม เรามิใช่ขวาด้วยเหตุผลอีกประการหนึ่ง พรรคย้ำมากในบทบาทและอำนาจประชาชน เราเน้นย้ำว่าประชาชนเป็นเจ้าของบ้านเมือง เป็นเจ้าของประชาธิปไตย เป็นเจ้าของพรรค กำหนดนโยบายพรรค เลือกกรรมการบริหารพรรค เลือกกรรมการวินัยและจริยธรรมที่จะมาควบคุม ตรวจสอบ ลงโทษผู้นำพรรค สมาชิก สส และ รัฐมนตรีของเรา สำหรับเรา ประชาธิปไตยและธรรมาภิบาลนั้นจะต้องเริ่มต้นภายในพรรค ยิ่งกว่านั้น ผู้สมัครในบัญชีรายชื่อของพรรคเราจะสลับหญิงชายอย่างเคร่งครัด และจะมีทั้งคนรุ่นเก่า รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ คอยดูเถิดพรรคเราจะเป็นของคนรุ่นใหม่มากกว่าบางพรรคที่ย้ำว่าตนก้าวหน้าหรือโปร-คนรุ่นใหม่เสียอีก พรุ่งนี้ครับเราจะเปิดเผยรายชื่อและอันดับ

"เรามิใช่พวกอนุรักษ์ที่จะหยุดนิ่ง อยู่เฉย ไม่อภิวัฒน์ ไม่เปลี่ยนแปลง-ปรับปรุง ตรงข้าม เราจะปฏิรูปใหญ่ เช่น จะทำให้จังหวัดมีผู้ว่าราชการที่มาจากประชาชน แต่เชื่อมโยงใกล้ชิดกับส่วนกลาง และนายกรัฐมนตรีจะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า อยู่ในวาระสี่ปี ในอนาคต การประชุมสำคัญของประเทศในภาครัฐไม่มีเพียงการประชุมคณะรัฐมนตรี จะต้องมีการประชุมนายกรัฐมนตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกเดือน ผู้ว่าราชการอย่างนี้จะแข่งขันกันสร้างผลงานเพื่อเอาใจ ประชาชนในจังหวัด" เอนก กล่าวถึงจุดยืน

สรุป เราทันโลกครับ ทันยุค ทันสมัย ขณะเดียวกันรู้ว่าอะไรที่เป็นของเราที่ดี ที่เป็นตัวตนเดิมของเรา เรามีกระบวนทัศน์ และประสบการณ์ ของเราเอง แต่อะไรที่ดีของต่างชาติ ของตะวันตก เราก็รับ อะไรที่ดีของเรา เราก็ภูมิใจ และเอามาใช้เช่นกัน ในโลกที่สลับซับซ้อน ความสมดุล ความพอดี เหมาะเจาะ และเป็นตัวของตัวเองได้จัดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก