ไม่พบผลการค้นหา
ภาคประชาชน พรึ่บหน้า พม.ค้านร่างกฎหมายคุม NGO ยันปล่อยเข้า ครม.ไม่ได้ ชี้การฟังความเห็นเเค่พิธีกรรม มีแนวโน้มปักหลักค้างคืน

องค์กรภาคประชาชนหลายเครือข่ายรวมตัวกันในนาม "ขบวนการประชาชนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน" ชุมนุมที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายที่ทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน ซึ่ง พม.ในฐานะผู้รับร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. … ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2565

ทั้งนี้ มีการขึ้นป้ายข้อความและใช้รถโมบายเครื่องเสียงสลับกันปราศรัยโดยแกนนำแต่ละกลุ่ม ตั้งแต่ประมาณ 10.00 น. มวลชนในช่วงเช้าประมาณ 400 คน โดยตัวแทนอ่านประกาศแถลงการณ์ ระบุถึงเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนถูกจำกัดอย่างมากใน "รัฐบาลประยุทธ์" ที่มีการใช้อำนาจรัฐควบคุมและใช้กฎหมายปิดกั้น ทั้ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , ม.112 และ ม.116 และยังพยายามออกกฎหมายมาควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนอีกด้วย

LINE_ALBUM_220324_4.jpg

ขบวนประชาชนต่อการร่างกฎหมายฯ ย้ำถึงความจำเป็นที่ต้องออกมายับยั้งความฉิบหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในอนาคต จึงต้องหยุดร่างกฎหมายที่จะนำไปสู่ความทุกข์ยาก เพราะหากประชาชนไร้สิทธิในการรวมตัวกัน ปัญหาต่างๆ จะไม่มีทางได้รับความสนใจหรือแก้ไขได้ พร้อมประกาศปักหลักตั้งเวทีปราศรัย ติดป้ายผ้า และทำกิจกรรมเพื่อแสดงจุดยืนคัดค้านกฎหมายดังกล่าวตลอดทั้งวันภายในพื้นที่กระทรวง พม.

โดยองค์กรที่ร่วมการชุมนุมมีจำนวนมากที่สำคัญคือ เครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ นำโดย จีรนุช เปรมชัยพร คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนืฝ (กป.อพช.) ทั้ง 4 ภาค แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน

มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม (EnLAW) เครือข่ายรัฐสวัสดิการ เครือข่ายปฏิรูปที่ดิน เครือข่ายสลัม 4 ภาค กลุ่มทะลุฟ้าและสมัชชาคนจน นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนภาคประชาชนในฐานะผู้เคยลงชื่อและถอนชื่อในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม เนื่องจากมีการบิดเบือนเนื้อหาและกลไกต่างๆมานำโดย จำนงค์ หนูพันธ์ จาก p-move มาร่วมปราศรัยสะท้อนปัญหาด้วย 

LINE_ALBUM_220324_0.jpg

กิจกรรมสำคัญคือ จะมีการเชิญ จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มาร่วมเวทีรับฟังความเห็นในช่วงบ่าย ก่อนจะยื่นหนังสือผ่าน จุติ ถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ให้ยุติกระบวนการร่างกฎหมายทำรายการรวมกลุ่มของประชาชนทุกฉบับ 

เบื้องต้นในช่วงเช้าใกล้เวลาเที่ยงยังไม่มีการตอบรับจากจุติ หรือผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องของกระทรวง พม.ที่จะมารับฟังความเห็นและรับหนังสือกับประชาชน

สำหรับการสลับการปราศรัยต่อเนื่องโดยตัวแทนแต่ละเครือข่ายในการต่อต้านร่างกฎหมายดังกล่าว ที่ต่างย้ำถึงเนื้อหาที่ให้อำนาจคณะบุคคลหรือกรรมการ มาควบคุมหรือกระทั่งตรวจค้นกลุ่มองค์กรทุกองค์กรทั่วประเทศ และเนื้อหาที่จำกัดสิทธิ์ต่างๆ ตลอดจนไม่มีความชอบธรรมในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นทั้งกระบวนการทางออนไลน์ แต่กลับเข้าถึงคนเพียงไม่กี่กลุ่ม

ทั้งๆ ที่กฎหมายนี้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนทุกคน รวมถึงต้องมีกลไกทางการเมืองเพื่อส่งเสริมประชาธิปไตย และต้องมอบสิทธิการตัดสินใจแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกคน และแม้ พม.จะจัดเวทีรับฟังความเห็นที่มีคนคัดค้านจำนวนมาก แต่ร่างกฎหมายก็อาจจะผ่านได้ จึงไม่อาจให้ร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ได้ ดังนั้น ควรหยุดกระบวนการไว้ตั้งแต่ตอนนี้

LINE_ALBUM_220324_13.jpg

นอกจากนี้ มีการจัดกลุ่มวงศ์ย่อยเรื่องผลกระทบร่างกฎหมายดังกล่าวมีการสลับการเล่นดนตรี และจะมีการอ่านแถลงการณ์โดย เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ ในเวลาประมาณ 18.00 น. ก่อนยุติกิจกรรมและยุติการชุมนุมหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่หากผู้มีอำนาจไม่ตอบรับ แกนนำกลุ่มต่างๆ เปิดเผยเบื้องต้นว่า อาจจะมีการปักหลักชุมนุมค้างคืนจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พอใจ

LINE_ALBUM_220324_2.jpg

สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. … มีสาระสำคัญ คือ การวางมาตรการให้องค์กรภาคประชาชนหรือองค์กรภาคประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบสมาคม มูลนิธิ หรือคณะบุคคลต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรเพื่อให้รัฐและสาธารณชนเข้าถึง ซึ่งรวมทั้งแหล่งที่มาของเงินทุน รวมถึงต้องไม่กระทำการอันกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดี และไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก เป็นต้น

โดยกำหนดให้ "องค์กรไม่แสวงหากำไร" หรือคณะบุคคลภาคเอกชนที่ไม่ว่าจะจัดตั้งในรูปแบบใดๆ เพื่อทำกิจกรรมโดยไม่มุ่งแสวงหากำไร มีหน้าที่เปิดเผยข้อมูล ได้แก่ ชื่อขององค์กร วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง วิธีดำเนินงาน แหล่งที่มาของเงินทุน และรายชื่อผู้รับผิดชอบดำเนินงาน โดยให้หน่วยงานของรัฐและบุคคลทั่วไปเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรจะกำหนดขึ้นภายหลัง

ในกรณีที่ได้รับเงินอุดหนุนหรือเงินบริจาคจากแหล่งเงินทุนต่างประเทศ ให้แจ้งชื่อแหล่งเงินทุนต่างประเทศ แจ้งชื่อบัญชีธนาคารที่จะรับเงิน จำนวนเงิน และวัตถุประสงค์ของการใช้จ่ายเงิน และการรับเงินต้องรับผ่านบัญชีที่แจ้งไว้เท่านั้น รวมถึงต้องใช้เงินจากแหล่งทุนตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อรัฐไว้เท่านั้น และต้องไม่ใช้เงินที่ได้รับมาเพื่อดำเนินกิจกรรมในลักษณะ "แสวงหาอำนาจรัฐ" หรือ "เอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมือง"

ทั้งนี้ หากพบว่าองค์กรไม่แสวงหากำไรดำเนินงานเข้าข่ายตามข้อห้ามที่กฎหมายกำหนด ให้นายทะเบียนแจ้งเตือน และสั่งให้หยุดการกระทำหรือแก้ไขการกระทำให้ถูกต้อง แต่หากยังฝ่าฝืนให้ออกคำสั่งยุติการดำเนินงานขององค์กรดังกล่า