ไม่พบผลการค้นหา
บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกสัญชาติอเมริกันเผชิญความท้าทายต่อเนื่องรับต้นปี 2020 ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทวีความรุนแรงขึ้นรายวัน

การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCov) เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญอย่างยิ่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช่วงไม่กี่วันก่อนการเข้าสู่ปี 2020 สภาคองเกรสของสหรัฐฯ ได้อนุมัติข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดาและเม็กซิโก การบรรลุข้อตกลงทางการค้าเฟสที่ 1 ระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับรัฐบาลจีน ไปจนถึงความสำเร็จในการเจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศสกรณีการขอเลื่อนเวลาการจ่ายภาษีออนไลน์ซึ่งเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการดำเนินธุรกิจเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกัน 

ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาบรรดาบริษัทเทคโนโลยีแถวหน้าของโลกต่างทยอยปิดห้างร้านและสำนักงานที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงการออกมาตรการสั่งห้ามผู้บริหารและพนักงานไม่ให้เดินทางไปยังประเทศจีนเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCov) ซึ่งสร้างความกังวลอย่างมากต่อสายพานการผลิตในภาพรวม

จีน - ไวรัสโคโรนา - AFP

เฟซบุ๊ก แม้จะไม่มีสำนักงานอยู่ในประเทศจีน แต่เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐฯบริษัทแรกที่ประกาศห้ามไม่ให้พนักงานเดินทางไปยังจีนหากไม่มีความจำเป็นจริงๆ ซึ่งโฆษกเฟซบุ๊กให้สัมภาษณ์กับ The Hill ว่าเป็นไปตามคำแนะนำของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ CDC และได้ขอให้พนักงานที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากจีนทำงานมาจากที่บ้าน 

หลังจากนั้นไม่นานบริษัท แอมะซอน ก็ออกมาตรการที่คล้ายคลึงกัน และ ไมโครซอฟท์ ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศจีนตั้งแต่ปี 1992 ก็สั่งให้พนักงานทำงานจากที่บ้านเท่านั้น และยกเลิกแผนการเดินทางที่ไม่จำเป็นทั้งหมดไปจนถึงวันที่ 9 ก.พ. เป็นอย่างต่ำ เพื่อรักษาสวัสดิภาพของตัวพนักงานและครอบครัว ซึ่งทางโฆษกของไมโครซอฟท์ชี้ว่าสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานคือสิ่งสำคัญที่สุด โดยไมโครซอฟท์ได้บริจาคเงิน 1 ล้านหยวนให้กับมูลนิธิ Hubei Red Cross Foundation เพื่อต้อสู้กับโคโรนาไวรัสด้วย

ด้านบริษัท กูเกิล ออกมาตรการสั่งห้ามการเดินทางของพนักงานไปยังจีนและฮ่องกงเป็นการชั่วคราว พร้อมสั่งปิดสำนักงาน 4 แห่งในจีน และพนักงานที่เดินทางกลับมาจากจีนต้องทำงานจากบ้านอย่างน้อย 14 วัน ขณะที่ เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ได้สั่งปิดฐานการผลิตแห่งใหม่ล่าสุดในเมืองเซินเจิ้นไปจนถึงวันที่ 9 ก.พ. และผู้ผลิตไอโฟนอย่าแอปเปิลก็สั่งปิดการให้บริการในร้านค้าทุกสาขาในจีน โดย CEO ทิม คุก ยืนยันด้วยว่าร้านค้าปลีกอื่นๆ ซึ่งเป็นคู่ค้ากับแอปเปิลก็ปิดหน้าร้านไปแล้วจำนวนมาก

บริษัท LG ประกาศอย่างชัดเจนว่าจะถอนตัวออกจากการร่วมงานเปิดตัวสินค้าโทรศัพท์มือถือที่งานประจำปีระดับโลกอย่าง Mobile World Congress 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.นี้ที่บาร์เซโลนาของสเปน เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของพนักงานหลายร้อยคนที่จะต้องเข้าร่วม และจะเป็นการรวมตัวของผู้คนจำนวนมหาศาลจากทั่วโลก โดยการถอนตัวครั้งนี้คือความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จาก LG เนื่องจากงาน MWC คือเวทีสำคัญในการเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ล่าสุดของบริษัท

การบินไทยฉีดพ้นไวรัส-ไวรัสโคโรนา-ห้องโดยสาร-การบินไทย

ด้าน Airbnb ผู้ให้บริการแชร์ที่พักออกมาตรการดูแลเจ้าของที่พักและลูกค้าที่อยู่ในมณฑลหู่เป่ย สามารถยกเลิกการจองได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการจองที่พักระหว่างวันที่ 21 ม.ค. ถึง 8 ก.พ. ส่วนบริษัท Uber ได้ทำการพักการใช้งานชั่วคราวของลูกค้า 240 คนในเม็กซิโก โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาได้อยู่ใกล้กับคนขับ 2 คนซึ่งมีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 

มาตรการทั้งหมดที่ว่ามานี้ถือเป็นภาระใหญ่ของทุกบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เพราะจีนคือฐานลูกค้าและฐานการผลิตที่ใหญ่และสำคัญที่สุด และยังเป็นศูนย์กลางที่พนักงานของทุกบริษัทเทคโนโลยีต้องเดินทางไปบ่อยครั้งที่สุดแห่งหนึ่ง ขณะที่ความท้าทายของทุกบริษัทโซเชียลมีเดียก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น เมื่อกระแสการกระจายข้อมูลข่าวสารที่ผิดพลาดและไม่เป็นความจริงของ 'ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่' มีมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้คนทั่วโลก ซึ่งยากต่อการจัดการ

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการระบาดในครั้งนี้จะสร้างผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากประเทศจีนคือประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้งโลกในปีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นักวิเคราะห์ด้านการเงินจาก Goldman Sachs สถาบันทางการเงินระดับโลกประเมินสถานการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า GDP ของจีนในไตรมาสแรกของปีนี้จะร่วงลงราว 1.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับตัวเลข GDP ของจีนในไตรมาสแรกของปี 2019 และยังคาดการณ์อีกด้วยว่าการลดลงของ GDP ในประเทศจีน จะทำให้ GDP ของทั้งโลกโตช้าลงราว 1 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2020 

ทีมนักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ยังชี้ด้วยว่า ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่ใช้ในครัวเรือนอาจต้องเผชิญกับผลกระทบที่รุนแรงทั้งในด้านของรายได้และผลิตภาพที่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และนอกเหนือจากโรงงานอุตสาหกรรมอันเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในเมืองศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างอู่ฮั่นจะต้องยุติการดำเนินการทุกอย่างลงแล้ว โรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่ในทุกเมืองของประเทศจีนก็จะได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน

แม้ขณะนี้สหรัฐฯ จะยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มาก แต่การที่จีนคือตลาดการส่งออกสำคัญของสหรัฐฯ และบรรดาบริษัทสัญชาติเมริกันจำนวนมากพึ่งพาการผลิตสินค้าและชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกจำนวนมหาศาลจากประเทศจีน วิกฤติการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาจึงสร้างความเสี่ยงสูงมากให้กับการประกอบธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกจากสหรัฐฯ ซึ่งมีแนวโน้มจะยืดเยื้อนานหลายเดือน