ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดไทยเริ่มเข้า 'ฤดูหนาว' ช่วงปลายเดือน ต.ค. ช้ากว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณ 1 สัปดาห์ แต่อากาศจะหนาวเย็นมากกว่าปีที่ผ่านมา

วันที่ 2 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยการคาดการณ์ สภาพอากาศระหว่างวันที่ 2 ตุลาคม 2565 - 8 ตุลาคม 2565 โดยมีรายละเอียดว่าในวันที่ 2 ต.ค. 65 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนเริ่มแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาวตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 3 - 8 ต.ค. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้ร่องมรสุมเลื่อนลงไปพาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลางตลอดช่วง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนัก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ตลอดช่วง ส่วนชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยา มีการคาดหมายว่า คาดว่าช่วงฤดูหนาวของประเทศไทยปีนี้จะเริ่มประมาณต้นสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนตุลาคม 2565 ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งจะช้ากว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณ 1 สัปดาห์ และจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566

อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบน 20 - 21 องศาเซลเซียส ซึ่งจะสูงกว่าค่าปกติประมาณประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส (ค่าปกติ 19.9 องศาเซลเซียส) และจะมีอากาศหนาวเย็นมากกว่าปีที่ผ่านมา (อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยปีที่ผ่านมา 21.0 องศาเซลเซียส) สำหรับอุณหภูมิต่ำที่สุด 8 - 9 องศาเซลเซียส ส่วนมากจะอยู่ตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอุณหภูมิต่ำที่สุดบริเวณกรุงเทพมหานคร 17 - 18 องศาเซลเซียส และปริมณฑล 15 - 16 องศาเซลเซียส

ช่วงเวลาที่จะมีอากาศหนาวเย็นที่สุด จะเริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2565 ถึงปลายเดือนมกราคม 2566 สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง

ส่วนบริเวณภาคใต้ จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางวันส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นโดยเฉพาะทางฝั่งตะวันออกในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง ซึ่งจะท่าให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้่าป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ สำหรับคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นระยะๆ ในบางช่วงมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร

เดือนพฤศจิกายนและธันวาคม อาจจะมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนตัวผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งท่าให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุกหนาแน่น รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่น 3-4 เมตร