ไม่พบผลการค้นหา
'เสรีพิศุทธิ์' จ่อฟัน 'แรมโบ้' ปมคลิปเสียง เผยคดีนี้ง่ายกว่านาฬิกายืมเพื่อนเยอะ เอาเท้าเขี่ยก็จบแล้ว ชี้ 'ประยุทธ์' เข้าข่ายผิดเพราะอุ้ม ไม่วางใจ กกต. ทำงานเฉื่อย

วันที่ 7 เม.ย. 2565 ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือร้องเรียนจาก สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ดำเนินการตรวจสอบคลิปเสียงสนทนาระหว่าง เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ 'แรมโบ้' ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับ จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมืองประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีเนื้อหาเกี่ยวกับการรับเงิน 15 ล้านบาท เพื่อไปใช้ในการเลือกตั้ง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว 

สมชัย ระบุว่า อาศัยประสบการณ์ที่เคยเป็น กกต. ตนเห็นว่าคลิปเสียงดังกล่าวนั้น น่าจะมีลักษณะเข้าข่ายความผิดทั้งการทุจริตการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดเรื่องจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ซึ่งมีทั้งโทษทางอาญา และการตัดสิทธิการเลือกตั้ง 

จึงได้นำคลิปการสนทนา ในรูปแบบ QR Code พร้อมด้วยการถอดเทปคำต่อคำที่ปรากฏในคลิปเสียงด้วยตัวเอง ละเอียดกว่าสิ่งที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ ยืนยันว่าเสียงดังกล่าวครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะมีเสียงรับสาย ไม่มีการตัดต่อส่วนใดส่วนหนึ่ง และได้แนบข้อสังเกตประเด็นที่อาจมีการผิดกฎหมายในคลิปเสียงดังกล่าวไว้ พร้อมบทลงโทษที่จะตามมาด้วย 

การยื่นหนังสือในวันนี้ถือเป็นช่องทางหนึ่งตามกฎหมายที่สามารถทำได้ ยังมีช่องทางอื่นๆ เช่นเดินทางไปที่สำนักงาน ป.ป.ช.โดยตรง หรือการยื่นเรื่องให้ กกต. ซึ่งได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งตนจะให้เวลาเพื่อให้ กกต. มีความชัดเจน 

"ผมจะให้เวลาสำนักงาน กกต. ถึงหลังสงกรานต์ ท่านน่าจะมีคำตอบอะไรสักอย่างให้ประชาชน ว่าสำนักงานจะส่งเรื่องให้ กกต. เมื่อไหร่ ถ้าหลังสงกรานต์ยังไม่มีการแถลงข่าวที่ชัดเจนจาก กกต. ผมจะนำเรื่องไปยื่นที่ กกต. อีกครั้งหนึ่ง" 

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เสกสกล ยอมรับว่าเป็นเสียงของตัวเอง พูดเรื่องเงิน 15 ล้านบาท และโควตาล็อตเตอรี่ จากนี้ต้องไปดูว่าการเลือกตั้ง 2562 ที่ผ่านมา เสกสกล ใช้เงินเกินกว่าที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดหรือไม่ ซึ่งกำหนดให้ผู้สมัครเขตใช้คนละไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ส่วนพรรคการเมือง 35 ล้านบาท และ กกต. ต้องนำเรื่องมาดำเนินการ ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลแค่ไหน เพราะ กกต. ทำงานอย่างเอื่อยเฉื่อย 

“เมื่อมีการมาร้อง ผมก็ต้องดำเนินการตาม 2 ประเด็น ไม่ได้ยากเลยนะคดีนี้ เป็นคดีที่ง่ายๆ หมูๆ เอาเท้าเขี่ยก็เรียบร้อยแล้ว เพราะรับสารภาพอยู่แล้วว่าเป็นเสียงพูดของตัวเองแต่เบี่ยงเบนไปว่าพูดเล่น ใครจะเชื่อ ให้เด็ก ป.1 ฟังเค้าก็รู้ว่าพูดจริงทั้งนั้น หลีกเลี่ยงเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว บุคคลที่อยู่เบื้องหลัง เสกสกล คือ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เปิดยุทธการจัดการเรื่องนี้ ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบอย่างไร อาจเป็นผู้สนับสนุน เสกสกลหรือไม่ ก็ต้องว่าด้วยพยานหลักฐาน แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้สนใจอะไร แถมอุ้มเสกสกลอีก ถือว่าเข้าข่ายประพฤติผิดจริยธรรมหรือไม่” 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะรับเรื่องนี้ไว้แล้วรีบดำเนินการ โดยจะขอมติที่ประชุมวันนี้ และบรรจุเรื่องนี้เป็นวาระในช่วงปลายเดือน พร้อมเร่งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่คงไม่เชิญ กกต. แค่ขอเอกสารที่เสกสกล รายงานทรัพย์สินหลังการเลือกตั้ง และเสกสกล ต้องชี้แจง กมธ. เพราะตนมีอำนาจเรียกมาได้ 

เมื่อถามว่า คดีนี้ง่ายกว่าคดีนาฬิกายืมเพื่อนหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ง่ายมากๆ นาฬิกายืมเพื่อนต้องหาหลักฐานเยอะแยะ ต้องไปดูถึงต่างประเทศ ไปดูว่าใครสั่งเข้ามา