ไม่พบผลการค้นหา
ชาวทวิตเตอร์ตั้งแฮชแท็ก #น้ำท่วมโคราช จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย หลังเกิดเหตุอ่างเก็บน้ำหินตะโง่แตก มวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคาเรือน ขณะสถานการณ์เขื่อนลำพระเพลิงวันเดียวน้ำไหลเข้าเขื่อนกว่า 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำพุ่งกว่า 111% ด้าน นายกฯ สั่งเฝ้าระวังระดับน้ำ พร้อมอพยพและช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าฝายอ่างเก็บน้ำหินตะโง่ บ้านลำประโคนเหนือ ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย หลังเกิดทรุดตัวและแตก เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (17 ต.ค. 2563) ส่งผลให้เกิดน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.ปักธงชัย หลายตำบล โดยเฉพาะที่บ้านปลายดาบ ม.2 ต.สุขเกษม และบ้านใหม่ตะแบก ม.7 ต.ตูม ได้มีมวลน้ำจำนวนมาก ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนหลายหลังคาเรือนที่อยู่ใกล้กับคลองธรรมชาติ ระดับน้ำสูงกว่า 50 เซนติเมตร โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดปักธงชัย และจุดโพธิ์กลาง ได้ระดมทีมกู้ภัยลงพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในบ้านตลอดทั้งคืน ขณะเดียวกันบัลลังก์ ไวทย์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย ได้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ให้วิ่งรถแจ้งเตือนประชาชนในเขตพื้นที่ ต.ตะขบ ต.สุขเกษม ต.ตูม และ ต.บ้านงิ้ว เป็นต้น ให้เก็บของขึ้นที่สูง และอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงเพื่อหนีน้ำท่วมที่กำลังจะมาถึง

ล่าสุดเช้าวันนี้ วิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จะลงพื้นที่ตรวจสอบฝายหินตะโง่ที่แตก และเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ดี ในทวิตเตอร์มีการติดแฮชแท็ก #น้ำท่วมโคราช และ #อ่างเก็บน้ำแตก จนติดเทรนทวิตเตอร์ประเทศไทย ซึ่งเมื่อเวลบา 10.50 น. ทั้ง 2 แฮชแท็กมีผู้ทวีตข้อความแล้วกว่า 2 แสนครั้งด้วยกัน

Untitled.jpg


ด้าน ขวัญชัย อุตตะเวช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ชี้แจงว่า อ่างเก็บน้ำหินตะโง่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ลำนางแก้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เป็นงานชลประทานขนาดเล็ก ก่อสร้างโดยโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมา แล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2530 และทำการถ่ายโอนภารกิจให้กับเทศบาลตำบลลำนางแก้วเมื่อปี 2546

เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ จ.นครราชสีมา อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้พื้นดินบริเวณดังกล่าวทรุดตัวจนทำให้ส่วนของหูฝายเกิดการชำรุดเสียหาย ทำให้มีปริมาณน้ำจำนวนมากไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะนี้ทีมหน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ได้เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการเข้าไปสำรวจความเสียหาย และซ่อมแซมส่วนที่เสียหายต่อไป


น้ำไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิงวันเดียวกว่า 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ระดับน้ำพุ่งกว่า 111%

ขวัญชัย อุตตะเวช ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง รายงานความคืบหน้า สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ล่าสุดเช้าวันนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานกว่า 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ขณะนี้มีปริมาณน้ำในเขื่อนสูงถึง 173.50 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 111.94% ของความจุกักเก็บทั้งหมด 155 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ วันละ 9.899 ล้านลูกบาศก์เมตร และทางเขื่อนฯ ได้มีการปล่อยน้ำลงสู่คลองชลประทาน และคลองธรรมชาติ เฉลี่ยวันละ 4.590 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่น ต.ตะขบ ต.บ่อปลาทอง และ ต.ตูม อ.ปักธงชัย เฝ้าระวังน้ำท่วมอย่างใกล้ชิด

121682630_3773941242624735_3325112220729952652_o.jpg
  • ภาพเขื่อนลำพระเพลิง จาก : FB ไนท์ คลับบ

ขณะเดียวกันอ่างเก็บน้ำสาขาของเขื่อนลำพระเพลิง 3 แห่ง ก็มีปริมาณน้ำเกินความจุกกักเก็บทั้งหมดแล้ว ได้แก่ อ่างเก็บน้ำลำสำลาย ต.ตะขบ อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 47.36 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 112.75% ของความจุกักเก็บทั้งหมด, อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว มีปริมาณน้ำ 6.98 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 109% ของความจุกักเก็บทั้งหมด และอ่างเก็บน้ำลำเชียงสา มีปริมาณน้ำ 7.88 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 105% ของความจุกักเก็บทั้งหมด โดยทางเจ้าหน้าที่ชลประทาน ได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากช่วงนี้ยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ทำให้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้ใจ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มให้เฝ้าระวังน้ำท่วมอย่างใกล้ชิดด้วย


นายกฯ สั่งเฝ้าระวังระดับน้ำ พร้อมอพยพและช่วยเหลือประชาชนเร่งด่วน

อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานและติดตามสถานการณ์ผนังกั้นน้ำ อ่างเก็บน้ำลำหินตะโง่ อ. ปักธงชัย จ. นครราชสีมา แตกเนื่องจากปริมาณฝนตกต่อเนื่อง และปริมาณน้ำเกินกว่าจะรับได้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ และสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง โดยสั่งการให้หน่วยงาน เช่น กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช) และจังหวัด เฝ้าติดตามและแก้ไขโดยด่วน พร้อมทั้งเร่งเตือนประชาชน ให้ได้รับรู้ข่าวสารอย่างต่อเนื่อง และการรับมือในสถานการณ์ ทั้งนี้ หน่วยงานต่างๆ ได้รายงานผลการช่วยเหลือ และบรรเทาสาธารณภัย ให้นายกรัฐมนตรีทราบทุกระยะ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนทุกขณะ และระดมสรรพกำลังพล เครื่องมือ และหน่วยแพทย์ เพื่อช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือและเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ตลอดเวลา