ไม่พบผลการค้นหา
ครอบครัวของนักศึกษาไทยในอียิปต์ ที่ถูกจับกุมตัวโดยเชื่อมโยงว่าเป็นกลุ่มไอเอส ยังคงซึมเศร้า ขณะผู้นำศาสนาและผู้ทรงคุณวุฒิยะลา ชี้ เรื่องนี้ทางรัฐบาลไทย ต้องเร่งให้การช่วยเหลือ ด้าน พล.อ.ประวิตร แจงไม่เชื่อมโยงไอเอส ยอมรับตรวจสอบประวัติเคยไปซูดาน

วันนี้ (1 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านของนายอิบรอเฮง มะลี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105/1 หมู่ที่ 4 ต.ยะหา อ.ยะหา จ.ยะลา นักศึกษาไทย ในประเทศอียิปต์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอียิปต์จับกุมตัว ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม กลุ่ม ISIS เหตุเกิดวันที่ 24 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมานั่น นางมารียะห์ แวปือสา อายุ 47 ปี มารดาและครอบครัว ของนายอิบรอเฮง มีความซึมเศร้า รอคอยข้อมูลข่าวสารของบุตรชายของตน ว่าจะพบหน้าตอนไหน ส่วนนายมาหามะ มะลี วัย 53 ปี ซึ่งเป็นบิดา ไม่ได้อยู่ที่บ้านแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จากการสอบถาม บุคคลในบ้านทราบว่า นายอาหามะ ไปพูดคย ปรึกษากับเครือญาติว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อให้ลูกกลับมาอย่างปลอดภัย ซึ่งในวันนี้ขณะที่ผู้สื่อข่าวเข้าไปพูดคุยกับมารดา ของนายอิบรอเฮง นั้น ก็ยังไม่เห็นว่ามีหน่วยงานราชการชุดไหนเข้าไปพูดคุยแต่อย่างใด ก็มีแต่ช่วงสายของเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารพราน ที่ 47 เจ้าหน้าตำรวจ สภ.ยะหา และ ฝ่ายปกครอง อำเภอยะหา เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจพร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือให้กับครอบครัวนายอิบรอฮิง เพียงเท่านััน ส่วนองค์กรต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ยังคงเงียบ

ด้านนายนิมุ มะกาเจ ผู้นำศาสนาและผู้ทรงคุณวุฒิ จังหวัดยะลา กล่าวว่ากระบวนการที่นักศึกษาไทยในอียิปต์ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จับกุมตัวบอกว่า สงสัยเกี่ยวข้องกับกลุ่ม ISIS ระบุในข่าวต่างๆ ว่าสารภาพในการสนับสนุนปฏิบัติการปฏิวัติอิสลาม กลุ่ม ISIS ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ตนเองไม่เข้าใจว่าเขาสารภาพโดยกระบวนการวิธีการใดในการสารภาพ เพราะฉะนั้นการสืบหาข้อมูลการสืบหาข้อเท็จจริง แม้กระทั่งการสอบสวนมีวิธีการอย่างไรก็ไม่แน่ใจ เพราะการสื่อสารเท่าที่ทราบ ความสันทัดภาษามีไม่มากพอ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจในคำถาม เข้าใจในคำตอบมากน้อยเพียงใด สิ่งนี้คงจะต้องพึ่งสถานทูตฯ และองค์กรต่างๆ ให้เร่งช่วยเหลือนักศึกษาไทยคนนี้โดยเร่งด่วนให้มากที่สุด พร้อมหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น โดยภาพรวมไม่ใช่เฉพาะรายนี้รายเดียวเท่านั้น นักศึกษาทั่วไปที่จะไปเรียนประเทศไหนก็ตาม สถานทูตฯ กับสมาคมชมรมของนักศึกษาไทย ต้องเป็นจุดรวมที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นสถานทูตฯ จะต้องดูแลให้ความช่วยเหลือเพื่อให้บุคคลเหล่านี้ได้รับความสบายใจในการไปศึกษา รัฐไทยเองก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเข้าถึงอยู่ตลอด 

สำหรับนักศึกษาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ไปศึกษาในประเทศอียิปต์ ปีละไม่น้อยกว่า 500 คนปัจจุบันเด็กไทยศึกษาอยู่ในอียิปต์ จำนวนเกือบ 3,000 คน รวมที่ศึกษาในตะวันออกกลาง จำนวน 5,000 คน ซึ่งน้อยกว่าไปประเทศอินโดนีเซีย มีอยู่ 7,000 คน สาเหตุที่เด็กนิยมไปเรียนในตะวันออกกลางเป็นจำนวนมาก เพราะสถาบันการศึกษาในตะวันออกกลางมีทุนการศึกษาให้ อยากได้ภาษาอาหรับ เป็นค่านิยมของผู้ปกครอง หากต้องการเรียนศาสนาต้องไปตะวันออกกลาง

"ประวิตร-ประยุทธ์" เช็คประวัติแล้ว นศ.ไทยคนนี้เคยไปซูดาน ไม่เกี่ยวกลุ่มไอเอส

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนักศึกษาไทยถูกจับกุมที่ประเทศอียิปต์ และถูกระบุว่ามีความเชื่อมโยงเข้าร่วมกับกลุ่มไอเอส ว่า เรื่องนี้ได้ติดตามอยู่ เท่าที่ปรากฏยังไม่ได้เกี่ยวกัน สำหรับประวัติของนักศึกษาคนนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามทราบว่า เคยไปที่ประเทศซูดานเคยถูกจับที่ซูดาน และให้เหตุผลว่าเรียนไม่ได้เลยขอย้ายมาอยู่ที่ประเทศอียิปต์ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากนี้

ล่าสุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการช่วยเหลือนักศึกษาไทยที่ถูกจับกุมที่ประเทศอียิปต์ ว่า กระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการให้การช่วยเหลือแล้ว ล่าสุดสถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงไคโร ได้หารือกับทางอียิปต์ ผ่านทางรองช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ แล้ว โดยทางอียิปต์ รับปากจะให้การช่วยเหลือ อย่างเต็มที่ และเร่งติดตามเรื่องนี้พร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทย ซึ่งยืนยันรัฐบาลไม่มีทอดทิ้งใคร รวมถึงเรื่องอื่นๆที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ 

ส่วนกรณีที่นักศึกษาไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่การเรียนในประเทศที่เข้มงวด ก็ได้ประสานงานกับสถานทูตในการดูแลทุกคน และทำอย่างไร ให้กลับมาแล้วมีงานทำ โดยบางประเทศที่เข้มงวด สายศาสนาเพียงอย่างเดียว บางครั้งงานไม่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศนั้น หาอาชีพให้มีรายได้ เหมาะสม เพียงพอ สานต่อสิ่งที่เรียนมา โดยรัฐบาลนี้ได้หารือกับทูตหลายประเทศ ในการส่งเสริมหลักสูตรการเรียนการสอน และให้เทียบวุฒิการศึกษาได้ โดยกระทรวงศึกษากำลังดูแลในเรื่องนี้อยู่ และยืนยันว่ามีการตรวจสอบมาโดยตลอด ซึ่งไม่พบการเชื่อมโยงกับกลุ่มต่างประเทศ