ไม่พบผลการค้นหา
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายคว่ำบาตรธนาคารที่ทำธุรกิจกับเจ้าหน้าที่จีนซึ่งเกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง หลังจากที่ก่อนหน้านี้จีนได้ผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกงที่หลายฝ่ายชี้ว่าเป็นกฎหมายที่มุ่งจำกัดสิทธิเสรีภาพในฮ่องกง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งถือเป็นการสะท้อนให้เห็นความกังวลของสหรัฐฯ ต่อการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีนที่ถูกมองว่าเป็นจุดสิ้นสุดของเสรีภาพในฮ่องกงที่ได้รับการรับรองเป็นเวลา 50 ปี เมื่อสหราชอาณาจักรส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีนในปี 2540 โดยร่างกฎหมายดังกล่าวที่ชื่อว่า ‘The Hong Kong Autonomy Act’ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อธนาคารที่ทำธุรกิจกับเจ้าหน้าที่จีนที่เกี่ยวข้องกับการลงโทษปราบปรามผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ซึ่งหลังจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาและได้ลงนามรับรองโดยประธานาธิบดี ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ขณะที่ ‘แนนซี เพโลซี’ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ระบุว่ากฎหมายนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการตอบโต้ต่อการที่จีนผ่านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมีเป้าหมายรื้อถอนเสรีภาพตามหลักประชาธิปไตยในฮ่องกง 

ก่อนหน้าที่จีนจะออกกฎหมายความมั่นคงสำหรับฮ่องกง สหรัฐฯ ได้เริ่มยกเลิกสถานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกง ระงับการส่งออกสินค้าด้านกลาโหมและจำกัดไม่ให้ฮ่องกงเข้าถึงผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีขั้นสูง ส่วนเมื่อปีที่ผ่านมาก็ยังได้ลงนามในกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยที่สนับสนุนผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงอีกด้วย ขณะเดียวกัน ยังมีปฏิกิริยาจากนานาชาติต่อการที่จีนออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติสำหรับฮ่องกง โดยนายกรัฐมนตรี ‘บอริส จอห์นสัน’ ของสหราชอาณาจักรระบุว่า การผ่านกฎหมายดังกล่าวเป็นการละเมิดปฏิญญาร่วมจีน-อังกฤษ อย่างชัดเจนและร้ายแรง ซึ่งภายใต้ปฏิญญาดังกล่าวที่เป็นข้อตกลงในการส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีนนั้นกำหนดให้จีนต้องรับรองเสรีภาพบางประการในฮ่องกงเป็นเวลาอย่างน้อย 50 ปี ภายใต้ข้อตกลง ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ โดยล่าสุดรัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่า จะเสนอให้ชาวฮ่องกง 3 ล้านคน ไปตั้งถิ่นฐานในสหราชอาณาจักรและขอสถานะพลเมืองสหราชอาณาจักรได้ในท้ายที่สุด  

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกประเทศที่วิพากษ์วิจารณ์ต่อการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของจีน โดยในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ คิวบาในฐานะตัวแทน 53 ประเทศระบุว่า การไม่แทรกแซงกิจการภายในของรัฐเอกราชต่างๆ เป็นหลักการสำคัญที่ได้รับการคุ้มครองในกฎบัตรสหประชาชาติ โดยเชื่อว่าทุกประเทศมีสิทธิ์ในการพิทักษ์ความมั่นคงแห่งชาติของตัวเองผ่านการออกกฎหมาย และชื่นชมการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์นี้ 

ทั้งนี้ เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติมีผลบังคับใช้ ตำรวจฮ่องกงก็ได้ประเดิมการใช้กฎหมายนี้ โดยมีประชาชน 10 คน ถูกจับกุมฐานละเมิดกฎหมายใหม่ซึ่งรวมถึงชายคนหนึ่งที่ถิือธงสนับสนุนเอกราช และยังมีประชาชนอีกประมาณ 370 คน ที่ถูกจับกุมในข้อหาต่างๆ เช่น การชุมนุมผิดกฎหมาย การก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะ ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่และครอบครองอาวุธ ในขณะที่ประชาชนหลายพันคนชุมนุมประท้วงใหญ่ต่อต้านกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเมื่อวานนี้ ซึ่งยังเป็นวันครบรอบที่สหราชอาณาจักรส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีน  

อ้างอิง BBC / Reuters / The Straits Times