ไม่พบผลการค้นหา
‘จุลพันธ์’ ยืนยันนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ใช้ Blockchain ปลอดภัย-ตรวจสอบได้ รัฐบาลเชื่อมั่นประชาชนใช้เงินเพื่อประโยชน์สูงสุด ขอสมาชิกฯ วางใจกระบวนการหางบประมาณ ยันไม่แตะกองทุนอื่น

วันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันแรก โดยมี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น

หลังจาก เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ใช้สิทธิชี้แจงเป็นครั้งแรกของวันเสร็จสิ้น ต่อมา จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน โดยยืนยันในกรอบคิดของดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งไม่ใช่เพื่อได้มาซึ่งคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง แต่เห็นแล้วว่าประเทศไทยเวลานี้ต้องการการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีหลักคิดสำคัญคือกระตุ้นกลไกเศรษฐกิจทั่วทุกภูมิภาค ด้วย Blockchain

ทั้งนี้ ยังมีหลักคิดเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ให้อนาคตคนไทยมีทั้งกระเป๋าเงินสดและกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งจะเป็นโครงสร้างรองรับโอกาสที่ไทยจะก้าวไปสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจดิจิทัลของโลก

ขณะที่ประเด็นที่มาของงบประมาณ จุลพันธ์ ขอความร่วมมือให้สมาชิกอภิปรายด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจชี้นำสังคมให้เข้าใจผิด กระทบกับความน่าเชื่อถือทางวินัยการเงินการคลัง รัฐบาลยืนยันไม่แตะต้องกองทุนวายุภักดิ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ กองทุนประกันตน รัฐบาลไม่ได้มีแม้แต่ความคิดจะแตะต้องกระบวนการเหล่านั้น

สำหรับกระบวนการของรัฐบาล จุลพันธ์ กล่าวว่า สุดท้ายจะมีความชัดเจนเรื่องกรอบการใช้เงิน รวมถึงการใช้เงินคืน ไม่กระทบต่อหนี้สาธารณะ และเป็นไปตามวินัยการเงินการคลังอย่างแน่ชัด ขณะที่เงื่อนไขใช้เงินดิจิทัลได้ในระยะ 4 กิโลเมตรนั้น รัฐบาลอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนและสมาชิกรัฐสภา ต้องขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะ และหาหนทางให้เกิดประโยชน์สูงสุด ข้อสรุปจะเป็นเช่นไร สุดท้ายเม็ดเงินจะไปสู่มือประชาชน และตอบเป้าหมายหลักคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ในเรื่องของการเอื้อทุนใหญ่ รวมถึงการดำเนินการให้เกิดราคาที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลรับฟังโดยคำนึงถึงความหวังดี แต่รัฐบาลไม่ได้มองประชาชนเป็นผู้ร้าย แต่มองว่าประชาชนส่วนมากจะสามารถใช้เงินที่ได้รับไปให้เกิดประโยชน์ ทั้งการบริโภคและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน

“โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีการเลือกปฏิบัติ เราไม่เลือกว่า สุดท้ายทุนใหญ่ หรือร้านสะดวกซื้อไม่สามารถร่วมโครงการได้ อันนี้เป็นสิทธิของประชาชน และเราต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนในการเลือกกิจกรรมที่เขาจะทำ แต่แน่นอนว่ารัฐจะมีนโยบายและโครงการที่จะประกอบกันเข้า เพื่อจูงใจให้ประชาชนใช้เม็ดเงินนี้ให้เป็นประโยชน์”

“ขณะนี้มีการรวมกลุ่มกันของประชาชนต่างจังหวัดจำนวนมาก รวมกลุ่มกันเพื่อนำเม็ดเงินนี้ ไปต่อยอดอาชีพ ไปรวมกลุ่มเพื่อจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน นี่คือแนวคิดของประชาชนที่ล้ำหน้ากว่าพวกเราที่นั่งอยู่ในรัฐสภาแห่งนี้ด้วยซ้ำ นโยบายนี้จะทำให้ประชาชนแตกยอดความคิด รองรับกับเม็ดเงินที่ลงไปให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

จุลพันธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลเชื่อมั่นในประชาชนว่าจะสามารถนำเม็ดเงินนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และระบบ Blockchain ไม่มีเทคโนโลยีใดที่ปลอดภัยไปกว่านี้ จึงขอให้ความมั่นใจว่า นโยบายนี้จะมีเกิดประโยชน์และตรวจสอบได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด