ไม่พบผลการค้นหา
WEF เผยผลสำรวจประเทศ-เขตปกครองทั่วโลกที่อำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนต่างชาติให้สามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้เร็วที่สุด รวม 13 อันดับ พบว่า 'นิวซีแลนด์' มีคะแนนสูงที่สุด และใช้เวลาไม่ถึง 1 วันก็สามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้

'เวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม' หรือ WEF (ดับเบิลยูอีเอฟ) องค์กรระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจโลก เผยรายชื่อประเทศและเขตปกครองที่นักลงทุนต่างชาติสามารถจดทะเบียนขอจัดตั้งบริษัทได้อย่างรวดเร็วที่สุด รวม 13 อันดับทั่วโลก ปรากฏว่า 'นิวซีแลนด์' เป็นประเทศที่อำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนได้ดีที่สุด ทำให้กระบวนการต่างๆ เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว ส่วนอันดับต่อมา ได้แก่ แคนาดา ฮ่องกง สิงคโปร์ จอร์เจีย ออสเตรเลีย จาเมกา อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจัน เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์

เหตุผลที่ทำให้นิวซีแลนด์ดำเนินเรื่องจดทะเบียนบริษัทให้แก่นักลงทุนต่างชาติได้อย่างรวดเร็วที่สุด เป็นเพราะรัฐบาลนิวซีแลนด์จัดทำเว็บไซต์เพื่อให้นักลงทุนสามารถดำเนินเรื่องต่างๆ ทางออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง และเป็นบริการแบบ 'วันสตอปเซอร์วิส' ที่รวมขั้นตอนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเอาไว้ด้วยกันในที่เดียว โดยเริ่มตั้งแต่การตรวจสอบชื่อบริษัทว่ามีใครตั้งชื่อนี้ไปก่อนแล้วหรือไม่ ซึ่งจะสืบค้นจากฐานข้อมูลออนไลน์ของภาครัฐ ถ้าหากพบว่าชื่อซ้ำ ก็ให้เปลี่ยนเป็นชื่ออื่นแทน 

ต่อจากนั้นคือขั้นตอนเสนอแผนธุรกิจ ซึ่งจะมีแบบฟอร์มให้นักลงทุนกรอกรายละเอียดที่จำเป็น โดยทั้งหมดนี้ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณครึ่งวันตามเวลาทำการปกติ ซึ่งถือว่าสะดวกรวดเร็วที่สุด ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ติดอันดับต้นๆ ของโลกจะใช้เวลาตั้งแต่ 1 วันไปจนถึง 3 วัน

ส่วนขั้นตอนต่อมา คือ บริการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมออนไลน์ เพื่อทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเสร็จสมบูรณ์ และมีการออกหลักฐานยืนยันการจดทะเบียนออนไลน์ โดบทางรัฐบาลนิวซีแลนด์รับประกันว่าขั้นตอนทุกอย่างคำนึงถึงความปลอดภัยส่วนบุคคลของผู้จดทะเบียน จึงมีทั้งระบบป้องกันและตรวจสอบไม่ให้ข้อมูลต่างๆ รั่วไหลไปสู่บุคคลที่สาม

ทำงาน-คนรุ่นใหม่-เศรษฐกิจ-ธุรกิจ

ทั้งนี้ ผลสำรวจการจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทในนิวซีแลนด์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พบว่ามีบริษัทต่างชาติจดทะเบียนไปแล้วกว่า 6 แสน 1 หมื่น 2 พันกว่าบริษัท ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยเลยเมื่อเทียบกับประชากรทั้งประเทศ ราว 5 ล้านคน ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้นิวซีแลนด์ดึงดูดใจชาวต่างชาติให้ไปลงทุนด้านธุรกิจมากกว่าที่อื่นๆ ได้แก่ ความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และระบบกำกับดูแลที่มีคะแนนด้านธรรมาภิบาลสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยอ้างอิงจากดัชนีความสามารถในการแข่งขัน หรือ GCI (จีซีไอ) ซึ่งจัดทำโดยเวิลด์อีโคโนมิกฟอรั่มประจำปี 2019 

ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่นักลงทุนต่างชาติมักจะพิจารณาก่อนตัดสินใจไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศต่างๆ ได้แก่ ประเด็นด้านข้อกฎหมายว่าจะช่วยเอื้อประโยชน์หรือคุ้มครองนักลงทุนมากน้อยแค่ไหน มีความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะเป็นข้อมูลที่จะต้องนำไปใช้ในการประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจเลือกประเทศที่จะไปลงทุน อีกปัจจัยหนึ่งคือความสะดวกในการถือครองหรือจัดการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท เพราะในบางประเทศ การดำเนินเรื่องนี้ รวมถึงการขอติดตั้งไฟฟ้าหรือน้ำประปา อาจใช้เวลามากกว่าการยื่นเรื่องจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท

ขณะเดียวกัน ประเทศที่ติดอันดับรั้งท้าย จากการสำรวจข้อมูล 190 ประเทศและเขตปกครองทั่วโลก เพราะใช้เวลาในการดำเนินเรื่องจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทล่าช้าที่สุด พบว่า 'เวเนซุเอลา' ล่าช้าที่สุด ใช้เวลาเฉลี่ย 7 เดือน 2 สัปดาห์ ตามด้วย 'ลาว' ใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 5 เดือนครึ่ง และ 'เฮติ' กับ 'กัมพูชา' ใช้เวลานานใกล้เคียงกัน คือ ประมาณ 3 เดือน

ทั้งนี้ ธนาคารโลก หรือ 'เวิลด์แบงก์' ระบุด้วยว่า การปรับปรุงให้ระบบกำกับดูแลและขึ้นทะเบียนบริษัทสะดวกง่ายดายสำหรับผู้ประกอบการชาวต่างชาติ เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนและดำเนินธุรกิจหน้าใหม่ๆ โดยตัวชี้วัดที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศในแอฟริกา โดยเฉพาะในภูมิภาคแอฟริกาใต้สะฮารา (หรือ ซับสะฮารา) ซึ่งมีการปฏิรูประบบการจดทะเบียนและดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทำให้หลายประเทศมีอันดับที่ดีขึ้นในดัชนีชี้วัดด้านการลงทุนทำธุรกิจ

ที่มา: Doing Business/ WEF

Photo by Dan Freeman on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: