นายการุณ โหสกุล ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่รัฐบาลประกาศพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะไม่สามารถกลับไปทำมาหากินได้ตามปกติ โดยทุกคนตั้งข้อสังเกตว่า ถึงวันนี้สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายแต่รัฐบาลไม่มีทีท่าว่าจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่อย่างใด
ส่วนข้ออ้างของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่ายังไงก็ไม่ยกเลิก ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการบริหารราชการในสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 นั้น ยิ่งไร้สาระและฟังไม่ขึ้น เพราะการคง พรก.ฉุกเฉินไว้ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อว่า รัฐบาลอาจต้องการใช้กฎหมายพิเศษฉบับนี้เพื่อปกป้องตัวเอง และละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากกว่า
“ผมหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินโดยด่วน ก่อนที่ประชาชนจะอดตายกันทั้งประเทศ วันนี้อยากให้คณะรัฐมนตรีทุกคนลองลงพื้นที่สัมผัสกับประชาชนบ้าง จะได้รู้ว่าคนส่วนใหญ่เดือดร้อนกันมากขนาดไหน เงินชดเชยแค่ 5 พันบาท เป็นเพียงรายได้ประทังชีวิตช่วงอยู่บ้านหยุดเชื้อ แต่ตอนนี้โรงเรียนเปิดแล้ว ทุกครอบครัวมีรายจ่ายมหาศาลรออยู่ข้างหน้า คนไทยไม่ใช่ขอทาน ทุกคนอยากกลับไปทำงานแต่ไม่มีโอกาสเพราะติดกับดัก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวังว่านายกฯคงเห็นใจประชาชนและรีบยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินโดยด่วน เพราะหากล่าช้าไปมากกว่านี้เชื่อว่าจะมีคนทะยอยคิดสั้นฆ่าตัวตายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ” นายการุณกล่าว
นายการุณ กล่าวด้วยว่า กรณีเงินกู้ 4 แสนล้านบาท ที่ให้แต่ละจังหวัดเสนอโครงการเพื่อนำไปดำเนินการพลิกฟื้นเศรษฐกิจในพื้นที่นั้น ตนหวังว่าทุกโครงการควรสร้างให้เม็ดเงินกระจายไปมากที่สุด เพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เช่น นำไปจ้างงานช่วยเหลือคนที่ตกงาน 7-10 ล้านคนให้มีรายได้ หรือโครงการในลักษณะที่จะช่วยส่งเสริมให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้นอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานของรัฐและประชาคมในแต่ละจังหวัดต้องร่วมกันคิด เพื่อให้งบประมาณจากเงินกู้นี้เกิดประโยชน์สูงสุด
“สำหรับข่าวลือว่า การจัดทำโครงการลงไปในพื้นที่ครั้งนี้มีการเรียกรับหัวคิวและชักเปอร์เซ็นต์นั้น หวังว่าจะไม่เป็นความจริง เพราะใครก็ตามที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชนถือเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาฝ่ายค้านเฝ้าเตือนรัฐบาลมาตลอดแต่รัฐบาลไม่ค่อยสนใจที่จะรับฟัง แต่ในครั้งนี้ต้องขอวิงวอนรัฐบาลอย่าปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น เพราะเงินกู้ก้อนนี้อาจเป็นเงินก้อนสุดท้ายของประเทศ หากใช้ไม่ได้ผลประเทศไทยอาจล้มละลายได้ ส่วนพรรคฝ่ายค้านจะติดตามการใช้งบประมาณที่มาจากเงินกู้นี้อย่างใกล้ชิดให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน และจะไม่ปล่อยให้ไอ้อีคนใดก็ตามมาหากินกับความทุกข์ของประชาชนอย่างเด็ดขาด” นายการุณ กล่าว
