ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุตุฯ พยากรณ์ทั่วประเทศเจอฝนร้อยละ 70 ของพื้นที่ และตกหนักบางแห่ง ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ปรับแผนระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาใหม่ เพื่อรอรับน้ำฝนที่จะตกใหม่ช่วงเดือน ก.ย. นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 31 ส.ค. 2561 ทั่วประเทศไทยมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเชียงราย, พะเยา, ลำปาง, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, พิจิตร และเพชรบูรณ์ จากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง

ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากในช่วงบ่ายถึงค่ำ

ด้านนายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา 22 จังหวัดว่า วันนี้ (31 ส.ค.) ได้ให้กรมชลประทาน ปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ใหม่จากวันละ 630 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที เป็นวันละ 700 - 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเร่งระบายน้ำจำนวนมากจากตอนบนของเขื่อนเจ้าพระยาให้ไหลลงทะเล ซึ่งการเพิ่มการระบายน้ำจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ อ.สรรพยา จ.ชันนาท ถึงบริเวณ ต.บ้านกระทุ่ม ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ท่าดินแดง อ.หักไผ่ จ.พระนครศรีอยุธยา เนื่องจากจะเกิดฝนตกหนักเพิ่มขึ้นไหลลงเขื่อนเจ้าพระยา 

ที่สำคัญต้องพร่องน้ำในลำน้ำเพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนที่จะตกลงมาใหม่ช่วงปลายเดือน ก.ย. - ต.ค. นี้ที่คาดการณ์แล้วว่า ฝนจะตกบริเวณท้ายเขื่อนและตกในพื้นที่เมือง

ขณะที่ภาพรวม 4 เขื่อนใหญ่ลุ่มเจ้าพระยามีศักยภาพรองรับน้ำได้ทั้งหมดจะไม่เกิดน้ำท่วมภาคกลางแน่นอน ยกเว้นพื้นที่ลุ่มต่ำที่รับน้ำหลากประจำทุกปี ประกอบด้วย เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำร้อยละ 60-70 และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์กับเขื่อนแควน้อนบำรุงแดน มีปริมาณน้ำประมาณ 300 ล้านลูกบากศ์เมตร ส่วนบริเวณ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เป็นจุดเฝ้าระวังปริมาณน้ำจุดสุดท้ายก่อนเข้ากรุงเทพฯ ยังมีศักยภาพรับน้ำหลากได้ถึง 2,500-3,000 ลูกบากศ์เมตรต่อวินาที ซึ่งปัจจุบันมีน้ำไหลผ่าน 896 ลูกบากศ์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น

ทั้งนี้ เลขา สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า การระบายน้ำเพิ่มขึ้นของเขื่อนเจ้าพระยาจะส่งผลกระทบให้แม่น้ำเจ้าพระยาและบริเวณสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30-50 ซม. โดยได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่แล้ว