นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่าเห็นใจรัฐบาลในขณะนี้ที่มีวิกฤตโรคระบาดเกิดขึ้น จึงต้องรับมือและแก้ปัญหารายวัน แต่อีกด้านหนึ่งที่ลุกลามและรุนแรงไม่แพ้กัน คือปัญหาไฟไหม้ป่าทางตอนบนของประเทศไทยที่ต่อเนื่องมากว่า 3 สัปดาห์แล้ว แต่ยังไร้มาตรการที่จะแก้ปัญหาและระงับความรุนแรงนี้จากภาครัฐ ขณะนี้ประชาชนที่อาศัยอยู่ทางภาคเหนือได้รับผลกระทบโดยตรง พวกเขาถูกผลักภาระให้ดูแลตัวเองจากโรคโควิด-19 ระบาด อีกทั้งยังต้องหาทางดับไฟป่า ช่วยกันบริจาคเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อแก้ปัญหา

ปัจจุบันการแก้ปัญหาไฟไหม้ป่าได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานเอกชนและอาสาสมัครจากหน่วยงานต่างๆ เป็นหลัก ซึ่งเช้าวันนี้ (4 เม.ย. 2563) มีอาสาสมัครจำนวน 3 รายที่ต้องเสียชีวิตระหว่างการช่วยเหลือดับไฟป่า ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตที่ต่อสู้กับไฟป่าเชียงใหม่ทุกท่าน ตลอดช่วงเวลานี้ตนเข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน ได้เห็นและรับข้อมูลทุกฝ่าย ซึ่งปัญหาที่พบในการทำงานของรัฐคือ ไม่เตรียมการสำหรับปัญหาไฟป่าโดยใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะกลัวประชาชนจะพบสิ่งที่รัฐปกปิดไว้

ตนจึงเสนอ 5 ข้อในการจัดการปัญหาไฟป่า เพื่อที่เราจะไม่ต้องเสียสละชีวิตของคนที่ต้องเป็นด่านหน้าในการสู้ไฟป่าอีกต่อไป

1.ใช้ดาวเทียมตรวจสอบจุดไฟไหม้ (Hot Spot) ปัจจุบันไทยใช้ข้อมูลดาวเทียมของนาซ่าที่โคจรผ่านไทยจำนวน 3 ดวง คือ TERRA AQUA และ SUOMI NPP พูดให้ง่าย กล้องที่ติดอยู่บนดาวเทียมทั้งสามตัวนี้เป็นกล้องระบบ MODIS และ VIIRS ซึ่งกล้อง VIIRS จะคมชัดกว่า MODIS (แต่หน่วยงานราชการมักใช้ภาพจาก MODIS)

2.ขอข้อมูลดาวเทียมจากประเทศอื่นๆ เพื่อความละเอียดและความถี่ในการสำรวจของดาวเทียม เพราะเทคโนโลยี ก้าวไกล ไปทุกวัน กล้องบนดาวเทียมก็มีความละเอียดและคมชัดมากขึ้น เช่น กล้อง ASTER ที่ญี่ปุ่นติดบนดาวเทียมนั้นมีความละเอียดกว่าสองตัวข้างต้นมาก (VIIRS และ MODIS) กล้อง ASTER นี้มีละเอียดกว่า ชนิดที่ว่าถ่ายเห็นแหล่งต้นกำเนิดไฟได้ ระบบนี้ไทยเราควรเอามาทดลองใช้เป็นอย่างยิ่ง

นายนิติพลระบุว่า ประเทศไทยควรเอามาทดลองใช้ในภาคปฏิบัติ ในทางวิชาการมีบทความต่างประเทศยืนยันว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ เพราะไทยสูญเสียพื้นที่ป่าจากปัญหาไฟป่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจำนวนมาก เพราะไม่รู้ต้นตอของการกำเนิดไฟ

3.ใช้โดรนบินเพื่อชี้พิกัด แทนการเดินเท้าสำรวจ เนื่องจากไฟป่าในฤดูร้อนเช่นนี้มันลามเร็วมาก เมื่อลมร้อนบวกกับอากาศที่ร้อนมากๆ คนจะไปเดินลาดตะเวนเป็นวันๆ ได้อย่างไร ทุกวันนี้เชียงใหม่ใช้วิธีเดินเท้าลาดตระเวนตลอดวัน วิธีแบบนี้สิ้นเปลืองกำลังคนและเสี่ยงต่อชีวิตมากเกินไป

4.เข้าดับไฟทันที โดยเฮลิคอปเตอร์ รถมอเตอร์ไซด์วิบาก หรือเดินเท้า ฯลฯ เมื่อได้พิกัด GPS จากโดรน การดับไฟก็จะทันเวลา เหลือแค่เลือกใช้วิธีการดับไฟให้สะดวกและเร็วที่สุดเท่านั้น

5.บูรณาการและเอาข้อมูลจริงระหว่างหน่วยงานมาพูดในการประชุม ข้อนี้สำคัญที่สุด เหมือนจะทำง่าย แต่กลับยากที่สุด ทั้งนี้ตนเห็นว่า ถ้าอยากจะดับ ไฟป่าเชียงใหม่ ให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ 'เอาความจริงมาพูดกัน' เพื่อหาทางดับไฟป่าให้เร็วที่สุด

สุดท้าย นายนิติพล ฝากถึงรัฐบาลว่าในฐานะที่เป็นฝ่ายบริหาร ย่อมไม่มีทางจะขอร้องให้ปัญหาเกิดขึ้นที่ละอย่าง เพราะฉะนั้น วันนี้ทั้งไวรัสระบาด ไฟไหม้ป่าที่ลุกลามรุนแรงขึ้น เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ ตนอยากขอร้องให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายทำให้ประชาชนเห็นเสียทีว่าประเทศนี้มีรัฐบาล เพราะทุกวันนี้ประชาชนดิ้นรนด้วยตัวเองทั้งนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ไฟป่าภาคเหนือ จนท.-ชาวบ้าน ดับหลายราย ออนไลน์ผุด #saveเชียงใหม่2
• กทม.ปล่อยโดรนพ่นน้ำแก้ปัญหาฝุ่นละออง