ไม่พบผลการค้นหา
หลังจากมีข่าวว่าข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กราว 50 ล้านคนรั่วไหล ส่งผลให้ผู้ใช้หลายคนกลับมาตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวบนเฟซบุ๊กกันมากขึ้น จนพบว่าถูกเฟซบุ๊กขโมยข้อมูลการใช้โทรศัพท์ในระบบแอนดรอยด์ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความจริงแล้ว ผู้ใช้งานเป็นผู้อนุญาตให้เฟซบุ๊กเอง

เรื่องอื้อฉาวที่เฟซบุ๊ก ปล่อยให้สถาบันวิจัยเคมบริดจ์ แอนาลิติกา สร้างแอปพลิเคชันแบบสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านบัญชี โดยไม่รู้ตัว ทำให้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กกลับไปตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กของตัวเองกันมากขึ้น โดยในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการเปิดเผยในหลากช่องทางว่าเฟซบุ๊กไซฟอนข้อมูลผู้ใช้ไปให้บริษัทที่ไม่ควรได้รับข้อมูลนำไปใช้

ล่าสุด ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า 'ดีแลน แม็คเคย์' ทวีตว่าเขาได้ดาวน์โหลดข้อมูลทั้งหมดที่เฟซบุ๊กเก็บจากบัญชีของเขาไปแล้วพบว่า เฟซบุ๊กได้เก็บข้อความ (SMS) และข้อมูลการใช้โทรศัพท์ทั้งหมดบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ในระบบแอนดรอยด์ แม้เขาจะไม่ได้ส่ง SMS หรือโทรศัพท์ผ่านเฟซบุ๊กก็ตาม

อย่างไรก็ตาม บีจีอาร์ สำนักข่าวด้านเทคโนโลยีออกมาอธิบายว่าทวีตของแม็คเคย์ทำให้คนเข้าใจผิดว่า เฟซบุ๊กขโมยข้อมูลจากแอนดรอยด์ไป ทั้งที่จริงแล้วผู้ใช้เองเป็นคนอนุญาตให้เฟซบุ๊กเก็บข้อมูลส่วนนี้ ซึ่งเป็นชุดคำสั่ง หรือฟีเจอร์หนึ่งที่มีบนแอปพลิเคชั่นของแอนดรอยด์เท่านั้น

ดังนั้น หากจะปิดฟีเจอร์นี้ก็ต้องเข้าไปใน "เมนู" เลือก "การติดตั้งแอปฯ" และปิดการซิงค์ (เชื่อมต่อ) กับประวัติการโทรและการส่งข้อความ

อย่างไรก็ตาม เฟซบุ๊กระบุว่าบริการดังกล่าวช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดต่อกับเพื่อนได้ง่ายขึ้น ซึ่งบีจีอาร์มองว่าเหตุผลของเฟซบุ๊กอาจเป็นเรื่องจริงในแง่การใช้งาน แต่ไม่ใช่เหตุผลที่ดีที่ควรเก็บเนื้อหาข้อความหรือการโทรของผู้ใช้ เพราะผู้ใช้มีทางเลือกที่จะใช้บริการแบ็กอัพข้อมูลที่ปลอดภัยกว่าเฟซบุ๊กได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: