ต่างประเทศ
ประธานสภาฯ 'ฉีกคำแถลง' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผิดหรือไม่?
แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา สังกัดพรรคเดโมแครต กลายเป็น 'มีม' ในสื่อสังคมออนไลน์อีกครั้ง หลังจากที่เธอฉีกสำเนาคำแถลงนโยบายประจำปี 2020 ของ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกัน เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยสื่ออเมริกันรายงานว่า เพโลซีตอบโต้ทรัมป์ซึ่งเมินการจับมือทักทายกับเธอก่อน
- แนนซี เพโลซี กลายเป็น 'มีม' ในสื่อออนไลน์จากการฉีกคำแถลงของทรัมป์
- สำนักข่าว AFP เผยแพร่ภาพนิ่งขณะทรัมป์เมินที่จะจับมือเพโลซีก่อนเริ่มแถลงนโยบาย
ท่าทีดังกล่าวของเพโลซี ทำให้ 'ชาร์ลี เคิร์ก' ผู้สนับสนุนพรรครัฐบาลรีพับลิกันและผู้ก่อตั้งองค์กร Turning Point USA ทวีตข้อความว่าประธานสภาฯ สหรัฐฯ อาจทำผิดกฎหมายว่าด้วยการเก็บรักษาเอกสารของทางการ เพราะฉีกคำแถลงนโยบายของทรัมป์ ซึ่งถือเป็นเอกสารของรัฐ และมีบทลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 3 ปี
- ทวีตของผู้สนับสนุนทรัมป์ระบุว่าประธานสภาฯ อาจมีความผิดที่ฉีกคำแถลง
ข้อความของเคิร์กถูกรีทวีตและมีผู้กดแสดงความรู้สึกมากกว่า 95,300 ครั้ง โดยหนึ่งในผู้ที่รีทวีตข้อความนี้ ได้แก่ 'โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์' บุตรชายของ ปธน.ทรัมป์ และ 'แดน บิชอป' ส.ส.พรรครีพับลิกัน ซึ่งต้องการตอบโต้การกระทำของเพโลซี
เว็บไซต์ Politifact ซึ่งเป็นสื่อด้านการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางการเมือง ได้ไปสอบถามนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายรายในสหรัฐฯ เพื่อหาข้อสรุปว่าเพโลซีมีความผิดจากการฉีกสำเนาคำแถลงนโยบายของทรัมป์จริงหรือไม่ แต่ผู้ให้สัมภาษณ์ทั้งหมดยืนยันว่า 'ไม่ผิด'
ดักลาส คอกซ์ อาจารย์ด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ระบุว่า กฎหมายที่เคิร์กอ้างถึงนั้นถูกเขียนขึ้นเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเนื้อหาในเอกสารของรัฐ ไม่ให้ทำลายหรือจงใจปกปิดข้อมูลที่ปรากฏในเอกสาร และโดยทั่วไปแล้ว เอกสารต้นฉบับที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถือเป็นเอกสารทางการ จะต้องนำไปเก็บไว้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ แต่เอกสารที่เพโลซีฉีกทิ้งเป็นเพียง 'สำเนา' คำแถลงที่ทรัมป์ยื่นให้ทั้งเพโลซีและไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม การฉีกสำเนาคำแถลงของทรัมป์ไม่ได้เป็นเหตุการณ์แรกที่ทำให้เพโลซีกลายเป็น 'มีม' ในโลกออนไลน์ เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นมีมไปแล้วจากท่าปรบมือแบบเหยียดแขน หลังทรัมป์สิ้นสุดคำแถลงนโยบายในปี 2019
- ผู้ใช้ทวิตเตอร์ใช้ภาพมีม 'แนนซี เพโลซี' ขณะปรบมือให้ทรัมป์เมื่อปีที่แล้ว
ทรัมป์รอดกระบวนการถอดถอน - แม้เจอ 'โหวตสวน'
ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์เองก็ทวีตตอบโต้เพโลซีว่าทำตัวไม่เหมาะสม ขณะที่ทรัมป์เองทวีตพาดพิง'ความล้มเหลว' ของการลงคะแนนเสียงภายในพรรคเดโมแครต ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.พ. เพื่อคัดรายชื่อผู้ที่จะท้าชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคไปลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีแข่งกับพรรครีพับลิกัน แต่ไม่สามารถประกาศผลได้ เพราะบริหารจัดการผิดพลาดหลายจุด
ทรัมป์ยังได้ทวีตข้อความโจมตีกระบวนการตั้งข้อหาถอดถอนเขาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี (impeachment) ว่าเป็น 'เรื่องลวงโลก' ของพรรคเดโมแครต หลังจากที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติเสียงข้างมากเมื่อ 5 ก.พ. ระบุว่าทรัมป์ 'ไม่ผิด' ในข้อหาใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและขัดขวางการตรวจสอบของสภา
การลงมติของวุฒิสภาให้ทรัมป์พ้นจากข้อกล่าวหาในกระบวนการถอดถอนไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย เพราะยังไม่เคยมีประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดถูกถอดถอนจากตำแหน่งจริงๆ ประกอบกับเสียงข้างมากในวุฒิสภาก็เป็นฝ่ายสนับสนุนพรรครัฐบาล
อย่างไรก็ตาม The Guardian รายงานว่า 'มิตต์ รอมนีย์' อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกัน ออกเสียงสนับสนุนข้อกล่าวหา 'ใช้อำนาจในทางมิชอบ' ที่มีต่อทรัมป์ในการประชุมวุฒิสภา ทำให้ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของ ปธน.ทรัมป์ เรียกร้องให้สมาชิกคนอื่นๆ ขับรอมนีย์ออกจากพรรค ข้อหาโหวตสวนมติพรรค
ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรลงมติให้ตั้งข้อหาทรัมป์เมื่อเดือน ธ.ค. สืบเนื่องจากกรณีที่ทรัมป์บอกให้ประธานาธิบดียูเครนสอบสวนข้อมูลเกี่ยวกับ 'โจ ไบเดน' อดีตรองประธานาธิบดีสังกัดพรรคเดโมแครต ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งทรัมปืในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในศึกเลือกตั้งปี 2020 และลูกชายของไบเดนเป็นหนึ่งในผู้บริหารของบริษัทพลังงานที่ไปลงทุนในยูเครน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
