ไม่พบผลการค้นหา
หญิงสาวคนหนึ่งในประเทศซิมบับเว ได้ลุกขึ้นมาต่อต้านกฎหมายการแบนของเล่นทางเพศ หรือเซ็กส์ทอย และการจำคุกผู้ที่มีเซ็กส์ทอยในครอบครอง โดยเธอกล่าวว่า ทั้งเธอและผู้หญิงทั้งหลายต่างเหนื่อยที่จะถูกกดทับต่อไป

ซิตาบิเล เดวา หญิงหม้ายในวัย 35 ปี ได้ในสัมภาษณ์กับสำนักข่าว Associated Press ว่า เธอมีความสุขทางเพศและรู้สึกปกติดีมาตลอดในช่วงชีวิตที่แต่งงาน แต่หลังหย่าร้างกับสามี เธอรู้สึกเหมือนว่ามีบางสิ่งในชีวิตนั้นขาดหายไป

ในสังคมอนุรักษนิยมของซิมบับเวนั้น เหล่าหญิงหม้ายและแม่เลี้ยงเดี่ยวมักจะถูกมองว่าไม่สมควรนำมาเป็นคู่ครอง ดังนั้น ด้วยความรู้สึกขาดหายและคับข้องใจ เดวาจึงมีความต้องการที่จะใช้เซ็กส์ทอย เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ทางเพศ

อย่างไรก็ดี กฎหมายการเซ็นเซอร์และการควบคุมความบันเทิงของซิมบับเว มีข้อห้ามไม่ให้ผู้ใดนำเข้า หรือครอบครองเซ็กส์ทอยที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากเซ็กส์ทอยถูกมองว่าเป็นสิ่งอนาจาร ลามก และเป็นอันตรายต่อศีลธรรมอันดีต่อสังคม โดยในซิมบับเวนั้น ผู้ครอบครองเซ็กส์ทอยต้องระวางโทษถึงขั้นจำคุก

เดวากล่าวว่าว่า ตัวเธอเองไม่สมควรที่จะถูกห้ามไม่ให้มีความสุขทางเพศด้วยตัวเอง และกฎหมายเซ็นเซอร์มีความโบราณคร่ำครึ ทั้งยังจำกัดและละเมิดเสรีภาพของเธอ ด้วยเหตุดังกล่าว เธอจึงตัดสินใจยื่นคำร้องต่อศาลในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อฟ้องร้องรัฐบาลซิมบับเว และเรียกร้องให้มีการยกเลิกกฎหมายเหล่านี้ ทั้งนี้ศาลได้รับคำร้องของเธอไว้พิจารณาแล้ว

เมื่อปีที่แล้ว ทางการซิมบับเวได้บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว โดยมีการจับกุมสตรี 2 คนที่มีเซ็กส์ทอยไว้ครอบครอง จำเลยรายหนึ่งเป็นแม่ค้าขายเซ็กส์ทอยทางออนไลน์ พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีการใช้ ทั้งนี้ เธอต้องถูกควบคุมตัวไว้ถึง 2 เดือนและถูกตัดสินให้จำคุก 6 ปี หรือบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 640 ชั่วโมง

นักสิทธิสตรีในประเทศซิมบับเวระบุว่า การมีความสุขทางเพศถูกมองว่าไม่จำเป็นสำหรับผู้หญิง โดยในซิมบับเว เซ็กส์ทอยเปรียบเสมือนการเอาใจออกห่างจากผู้ชาย โดยถ้าหากว่าผู้ชายนิยมการใช้เซ็กส์ทอย กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้อาจถูกยกเลิกลงไปแล้ว

ในขณะที่มุมมองของนักวิชาการระบุว่า การรังเกียจเซ็กส์ทอยและการปกปิดทางเพศที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ของซฺมบับเว เป็นผลมาจากค่านิยมตะวันตก ที่หลั่งใหลเข้ามาในทวีปแอฟริกาในช่วงยุคล่าอาณานิคม ถึงแม้ว่าซิมบับเวจะหลุดจากการเป็นอาณานิคมมากว่า 43 ปีแล้ว แต่เศษซากของค่านิยมดังกล่าวยังคงมีอยู่สืบมา

นักวิชาการยังยกตัวอย่างค่านิยมท้องถิ่นที่มีมาก่อนยุคอาณานิคมว่า หญิงในแถบภูมิภาคแอฟริกาใต้เคยมีความเปิดกว้างทางเพศมากกว่าในทุกวันนี้ โดยซฺมบับเวมีวิธีปฏิบัติทางสังคมที่เรียกว่า “ชินัมวารี” ซึ่งในขณะนี้กำลังถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ ทั้งนี้ ชินัมวารีคือการที่ผู้หญิงวัยสาวจะรวมตัวกัน เพื่อไปขอคำแนะนำจากผู้หญิงที่มีประสบการณ์ทางเพศมากกว่า ในการรักษาสุขภาวะทางเพศและการสืบพันธุ์ โดยในทุกวันนี้ ในประเทศซิมบับเวได้มีการปฏิบัติชินัมวารีกันในอินเตอร์เน็ต


ที่มา:

https://abcnews.go.com/International/wireStory/tired-oppression-woman-zimbabwe-challenges-law-banning-sex-100362109?fbclid=IwAR3lpEURSXMAHa2yHoM2xEKownS9qbYknjCXBRy3Rg12wVBXzwAoeaod9ws