ไม่พบผลการค้นหา
วายแอลจี เผยการลดดอกเบี้ยของ กนง.ไม่มีผลต่อราคาทองในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ เหตุเงินบาทยังอ่อนค่า เตือนระยะสั้นราคาทองคำยังผันผวน หลังต้นสัปดาห์ทำสถิติสูงสุดของปีนี้ (2563) ที่ 1,765 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่ง เปิดเผยว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ของปีนี้และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี 7 เดือน คืออยู่ที่ 1,765 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ในระหว่างการซื้อขายของเมื่อวันที่ 18 พ.ค.2563 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ตึงเครียดมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์ ไม่สนใจที่จะสนทนากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในขณะนี้ พร้อมแสดงความผิดหวังที่จีนล้มเหลวในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 

อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ยังกำหนดกฎใหม่โดยสั่งบริษัททั่วโลกแบนส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปให้บริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี ขณะที่สื่อจีน ระบุว่า จีนอาจทำการตอบโต้ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐฯ ด้วยการสอบสวนบริษัทสัญชาติอเมริกัน รวมทั้งระงับคำสั่งซื้อเครื่องบินจากโบอิ้งด้วย 

ประเด็นนี้กดดันเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ให้อ่อนค่า พร้อมกับกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน อาจยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากการระบาดของโควิด-19 ให้เลวร้ายลงไปอีก 

พวรรณ (1).jpg
  • นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

อย่างไรก็ดี ราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงในเวลาต่อมา ขณะที่สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังไม่แน่ชัดว่าจะลุกลามเป็นสงครามการค้าดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นในปีที่แล้วหรือไม่ โดยเมื่อต้นเดือน พ.ค. ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันว่าจะร่วมมือกัน สร้างบรรยากาศและภาวะต่างๆ ที่เอื้ออำนวยกับการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างจีนและสหรัฐ 

นายแลร์รี คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า ข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีการลงนามในเดือนม.ค.จะไม่มีวันถูกยกเลิก ประกอบกับยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาทองคำเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยง, แนวโน้มการดำเนินนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจการเงินและการคลังเพิ่มเติมของหลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ, ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 หลังหลายประเทศทั่วโลกกลับมาเปิดเศรษฐกิจ และการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19

ด้านปัจจัยภายในประเทศ แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 สู่ระดับ ร้อยละ 0.50 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ แต่การอ่อนค่าของค่าเงินบาทยังจำกัด หลังไทยสามารถควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดี ส่งผลให้ประเทศค่อยๆ กลับมาเปิดธุรกิจและผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ กระตุ้นความหวังว่าภาคการท่องเที่ยวอาจฟื้นตัวขึ้นจึงเป็นปัจจัยช่วยจำกัดการอ่อนค่าของค่าเงินบาท ทำให้ราคาทองคำในประเทศได้รับอานิสงค์เชิงบวกไม่มากนัก ดังนั้น จะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มผันผวนได้ทั้ง 2 ทิศทาง

แนะนักลงทุนทยอยขาย ราคาเป้าหมาย 1,788-1,795 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ 

นางพวรรณ์ กล่าวว่า จากการปรับตัวขึ้นมาของราคาทองคำในปีนี้ ถือว่าเคลื่อนไหวเข้าใกล้เป้าหมายที่ YLG ประเมินไว้ ดังนั้นนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากหลายครั้งเมื่อราคาสร้างระดับสูงสุดใหม่มักจะมีแรงขายทำกำไรเข้ามากดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง จึงแนะนำแบ่งออกคำออกขายทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้ หรือ ทดสอบเป้าหมายของปีนี้ที่แนวต้านโซน 1,788-1,795 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของช่วงเดือน ก.พ. ,ก.ย. และ ต.ค. 2555 แต่หากผ่านแนวต้านแรกได้ให้ชะลอการขายออกไปโซน 1,920 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของช่วงเดือน ก.ย. ปี 2554 ขณะที่การเข้าซื้อ อาจรอราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับ 

เบื้องต้นคาดการณ์แนวรับแรกบริเวณ 1,704-1,690 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งเป็นจุดสูงสุด ของช่วงเดือน มี.ค.และ ก.พ.ของปีนี้ ที่สำคัญนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการไล่ซื้อพร้อมกำหนดราคาเป้าหมายและจุดตัดขาดทุนประกอบการลงทุนทุกครั้ง




ข่าวที่เกี่ยวข้อง :