ไม่พบผลการค้นหา
แม้การอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปแล้ว แต่ยังคงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตอบคำถามโชว์หลักฐานทั้ง การซื้อซิโนแวค, การซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 เป็นจีทูจีหรือไม่ เหตุใดมีการจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม, การระบายยางพาราในสต๊อกต่ำกว่าคุณภาพจาก 37 เหลือ 33 บาททำประเทศเสียหาย

นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี ส.ส. ของพรรคจำนวนหนึ่งโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า ส.ส. ที่มีเจตนาฝ่าฝืนมติของพรรค ทั้งขาดประชุมโดยไม่มีเหตุผล  ตั้งใจให้ร้ายกับพรรคด้วยความเท็จ และผู้ที่มีลักษณะที่บ่งบอกว่าไม่ต้องการจะอยู่กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า คณะกรรมการจริยธรรมของพรรคมีการประชุมในวันจันทร์ที่ 6 กันยายนนี้ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงก่อนพิจารณาดำเนินการในขั้นต่อไป หากพบจงใจทำผิดขั้นร้ายแรง พรรคจะดำเนินการขับออกจากสมาชิกพรรคทันทีตามมาตรการขั้นเด็ดขาดของนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค ที่ได้ออกหนังสือแจ้งไปยัง ส.ส. ทุกคนก่อนหน้านี้  

โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวอีกว่า จากนี้ไปรัฐบาลจะต้องออกมาตอบคำถามที่ฝ่ายค้านได้อภิปรายทั้งหมด ทั้งกรณีการสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวค ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อหากเชื่อมั่นว่าทำถูกต้อง ควรออกมาแสดงใบเสร็จการจัดซื้อ การจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 1 ของรัฐบาลไทยกับรัฐบาลจีนว่าเป็นการซื้อขายแบบจีทูจีจริงหรือไม่ เหตุใดจึงมีการจ่ายภาษีแวตจนทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์เป็นเงินภาษีหลายร้อยล้านบาท รวมไปถึงการระบายยางพาราในสต๊อกของรัฐบาลว่ามีการขายต่ำกว่าคุณภาพ จากกิโลกรัมละ 37 บาทเหลือ 33 บาทซึ่งอาจจะซ้ำรอยการระบายข้าวดีเป็นข้าวเสีย ซึ่งเป็นข้าวในสต๊อกสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จนทำให้ประเทศเกิดความเสียหายหรือไม่  ทั้งนี้เชื่อว่าแม้ฝ่ายรัฐบาลจะชนะเสียงในสภา แต่ไม่อาจทัดทานความต้องการที่แท้จริงของประชาชนได้ ขณะนี้ประชาชนเดือดร้อนจากการบริหารของรัฐบาลที่ผิดพลาดล้มเหลวอย่างแสนสาหัสจนหมดทางออก จากนี้ไปต้องติดตามว่าประชาชนจะระบายความอัดอั้นที่มีต่อรัฐบาลอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและพวก ควรต้องคิดให้ดี แม้จะอยู่ในตำแหน่งต่อ แต่ไม่อาจมีที่ยืนในใจของประชาชนต่อไปได้ เพราะแม้แต่เสียงโหวตของพรรคร่วมรัฐบาลเองยังต่ำ ได้คะแนนเกือบลำดับท้ายสุดในบรรดารัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด สะท้อนถึงความล้มเหลว ความไม่เชื่อมั่น และความสั่นคลอนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่มีแต่คนเกลียด จากนี้ไป พล.อ.ประยุทธ์ จะถูกจับตาการทำงานจากฝ่ายค้าน และแม้กระทั่งคนในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน

ด้านนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า ผลการลงมติที่ผ่านมานั้น แสดงว่าผู้แทนฯในสภาไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์น้อยลงทุกวัน แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ได้ไม่นาน ส่วนกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยโหวตสวนมติพรรคนั้น พรรคมีมติแล้วว่า ให้ไม่ไว้วางใจทุกคน ห้ามป่วย ห้ามขาด ห้ามลาประชุม และห้ามไว้วางใจ และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคยังได้ออกหนังสือกำชับ ส.ส.ของพรรคให้ลงมติตามมติของพรรคด้วย โดยหนังสือระบุชัดเจน ว่า ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ถือว่าทำผิดวินัย และจริยธรรมของกรเป็นสมาชิกพรรคอย่างร้ายแรง มีโทษถึงขั้นพิจารณาขับออกจากพรรค นอกจากนี้ วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสมพงษ์ ได้เรียกให้ส.ส.ทุกคนมาเซ็นชื่อรับหนังสือ จะมาอ้างว่าไม่ได้รับหนังสือ ไม่ทราบ ไม่รู้ ไม่เห็นไม่ได้ ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคภาคอีสาน และผู้บริหารพรรคยอมไม่ได้ ดังนั้น ส.ส. 7 คน ของพรรคเพื่อไทยที่โหวตส่วนมติพรรคในครั้งนี้นั้น เตรียมตัวเลย อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง ตัวเองแน่ พรุ่งนี้ (6 กันยายน) ทุกอย่างจะเดินตามระเบียบข้อพรรคคับพรรคอย่างเข้มงวด ไม่มีประนีประนอม คุณจะไปหาพรรคไหนอยู่ก็เรื่องของคุณ แต่ทั้งนี้จะมีคณะกรรมการเปิดโอกาสให้ชี้แจงก่อน ถ้าคุณคิดว่าแน่ แล้วพรรคจะไม่กล้าขับคุณ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคจะเป็นผู้เสนอขับคุณเอง ส่วนกรณีที่ไปแถลงข่าวด่าพรรค พรรคก็จะเอาเรื่องด้วย เพราะพรรคไม่เคยกลัวใครเหมือนกัน