ไม่พบผลการค้นหา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปัดข่าวนายทุนกดราคารับซื้อข้าวโพด ยืนยันไม่มีการนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแหล่งผลิตอื่น มาลักลอบจำหน่ายยังจุดสหกรณ์

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เกษตรจังหวัดและสหกรณ์จังหวัดพะเยา เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที กรณีสื่อมวลชนบางฉบับนำเสนอข่าวว่า เกษตรกรใน อ.ภูซาง จ.พะเยา ไม่สามารถขายข้าวโพด ได้ราคาตามที่กระทรวงเกษตรฯ ได้ประกาศ และอ้างว่ามี นายทุนเป็นผู้กำหนดราคาขายไม่ใช่รัฐบาล ทำให้เกษตรกรขายได้ราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต และวิสาหกิจชุมชนที่อ้างต้องมารองรับปัญหาด้วยการช่วยซื้อข้าวโพด พบว่า ในพื้นที่ อ.ภูซาง จ. พะเยา เกษตรกรตามที่ปรากฎในข่าว ไม่ได้เป็นเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ และจุดที่เกษตรกรไปจำหน่าย ไม่ได้เป็นจุดรับซื้อของสหกรณ์ตามโครงการฯ ที่ได้ทำ MOU ร่วมกันไว้ และพบว่าเกษตรกรที่ ขายให้กับ จุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่โครงการฯ กำหนดไว้ 

ได้แก่ สหกรณ์นิคมเชียงคำ จำกัด โดยมีสหกรณ์การเกษตรบ้านร่องส้าน จำกัด ที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน รองรับผลผลิตและส่งจำหน่ายต่อ โดยราคาเมื่อวันที่ 3 พ.ค. รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามโครงการฯ โดยไม่วัดความชื้น จำหน่ายแบบเหมาทั้งฝัก ความชื้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30-34 ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่พอใจ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.20 - 5.40 บาท และเกษตรกรในพื้นที่ สามารถผลิตได้ 1,200-1,500 กก.ต่อไร่ ทำให้มีรายได้จากการขายข้าวโพด เฉลี่ยไร่ละประมาณ 6,890 บาท ต้นทุนการผลิตต่อไร่ประมาณ 4,550 บาทต่อไร่ เกษตรกรก็ยังมีกำไรจากการผลิตต่อไร่ประมาณ 2,340 บาท

สำหรับ โครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา งดทำนาปรังรอบสอง ใน 37 จังหวัด ซึ่งช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ เข้าฤดูเก็บเกี่ยว ย้ำให้เกษตรกร ทุกคนที่เข้า��่วมโครงการฯ ขายตามจุดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดไว้ มีสหกรณ์การเกษตรรับซื้ออยู่ทุกอำเภอ และเกษตรกรพิจารณาราคาได้จากหน้าโรงงาน ไม่หลงเชื่อพ่อค้าคนกลาง ที่มากดราคาขาย เพราะกระทรวงเกษตรฯ

พร้อมดูแลเกษตรกรทุกคน แต่เกษตรกร ก็ต้องให้ความร่วมมือที่จะไปขายยังจุดที่ กระทรวงเกษตรฯ กำหนดไว้ด้วย หรือ ประสานไปยัง สำนักงานสหกรณ์จังหวัด หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอ สำนักงานเกษตรจังหวัด ที่ใกล้บ้าน เพื่อขอข้อมูลว่าสามารถรับซื้อได้ที่จุดไหนบ้าง ซึ่งได้ประสานงานจุดรับซื้อผลผลิตใกล้กับแหล่งปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรในโครงการดังกล่าวรวม 294 แห่ง แยกเป็นของสหกรณ์การเกษตร 262 แห่ง และจุดรับซื้อของภาคเอกชน 32 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 386 อำเภอ ใน 37 จังหวัด ทำให้เกษตรกรมีแหล่งขายผลผลิตที่แน่นอนช่วยลดต้นทุนค่าเดินทางให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

“ในการรับซื้อข้าวโพดจากเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ ผลจากการเก็บเกี่ยวที่ผ่านมาพบว่าเกษตรกรผลิตตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่เกษตร สามารถได้ผลผลิตเฉลี่ย ประมาณ 1,200 – 1,500 กก. ต่อไร่ ซึ่งราคาที่โรงงานรับซื้อ ขณะนี้ อยู่ที่ ประมาณ 5.20 บาท ซึ่งเป็นราคารับซื้อทั้งฝัก โดยไม่วัดความชื้น นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าจะไม่มีการนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากแหล่งผลิตอื่น มาลักลอบจำหน่ายยังจุดสหกรณ์ ที่เปิดเป็นจุดจำหน่ายแน่นอน เนื่องจากได้เปิด ระบบเว็บ corn service มากำกับการรับซื้อทุกพื้นที่ด้วยแล้ว ยังได้ย้ำให้มีการประกาศจุดรับซื้อ ของสหกรณ์ แต่ละพื้นที่ให้ทั่วถึง ให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงจุดจำหน่ายได้ และขายได้ในราคาที่เกษตรกรพอใจ”นายกฤษฏา กล่าว