ไม่พบผลการค้นหา
ชาวฟิลิปปินส์ในมินดาเนาออกไปใช้สิทธิลงประชามติว่าต้องการให้มีการขยายเขตปกครองตนเองในมินดาเนาหรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลท้องถิ่นมีสิทธิในการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรในพื้นที่ได้มากขึ้น และยุติความขัดแย้งระหว่างกองกำลังติดอาวุธมุสลิม

รัฐบาลฟิลิปปินส์จัดการลงประชามติถามความเห็นประชาชนเกือบ 3 ล้านคนในมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ ที่มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม โดยประชามติครั้งนี้จะถามความเห็นว่า ประชาชนเห็นด้วยกับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MILF) หรือไม่ ในกรณีที่จะตั้งเขตปกครองตนเอง “บังซาโมโร” โดยรวมเขตปกครองตนเองมินดาเนาเดิมกับเมืองอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ และจะมีการลงประชามติอีกครั้งในวันที่ 6 ก.พ.ในเมืองใกล้เคียง

การลงประชามติถือเป็นวิธีทางการเมืองในการแก้ปัญหาความขัดแย้งที่ดำเนินมาอย่างยาวนานระหว่างฝ่ายแบ่งแยกดินแดนชาวมุสลิมและรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 120,000 รายแล้ว โดยกลุ่ม MILF กล่าวว่าพวกเขาจะล้มเลิกความตั้งใจในการเรียกร้องเอกราชจากฟิลิปปินส์ หากมีอำนาจในการปกครองตนเองมากขึ้น

การตั้งเขตปกครองตนเองบังซาโมโร จะเป็นการถ่ายโอนอำนาจบางส่วนจากรัฐบาลกลางสู่รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้เขตปกครองตนเองนี้ได้รับงบประมาณมากขึ้น และสามารถบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นได้เองมากขึ้น และในปี 2022 จะมีการจัดการเลือกตั้งในพื้นที่ แล้ว ส.ส.ในสภาท้องถิ่นก็จะเลือกมุขมนตรีของเขตปกครองตนเองบังซาโมโร ซึ่งคาดว่าจะทำให้กลุ่ม MILF ได้เข้าสู่กระบวนการทางการเมืองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลางจะยังเป็นผู้ควบคุมดูแลนโยบายมหาดไทยและความมั่นคงของเขตปกครองตนเองบังซาโมโร

มินดาเนาเป็นพื้นที่ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ที่พ่อค้าอาหรับเดินทางเข้าไปถึงฟิลิปปินส์ครั้งแรก ขณะที่ประชากรส่วนใหญ่ในพื้นที่อื่นๆ ของฟิลิปปินส์เป็นชาวคริสต์ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมในมินดาเนากับกองทัพฟิลิปปินส์ และความรุนแรงที่ดำเนินมาอย่างยาวนานก็ทำให้มินดาเนาเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประชากรยากจนที่สุดในประเทศ

ที่มา : BBC, CNN