ไม่พบผลการค้นหา
รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง หนุนเปิดรัฐสภาสมัยวิสามัญถก พ.ร.ก.-พ.ร.บ.เร่งเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ชี้ไม่ใช่อำนาจประธานสภาฯ ขอเปิดวิสามัญ ย้ำเปิดสภาปกติ 22 พ.ค. พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ไม่ชักช้า

ที่รัฐสภา ย่านเกียกกาย นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านเสนอให้เปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อเร่งพิจารณา พ.ร.ก.เกี่ยวกับการกู้เงิน และร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2563ว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพราะขณะนี้มีทั้ง พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. ที่ต้องรีบดำเนินการ เพื่อนำเงินจากส่วนต่าง ๆ มาเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่การจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเป็นผู้เสนอ หรือสมาชิกทั้งสองสภาเข้าชื่อร่วมกันไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ถ้าทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ก็เปิดประชุมสมัยวิสามัญได้ หากมีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญ คงนำเรื่องเกี่ยวกับ พ.ร.ก. กู้เงินมาพิจารณาเป็นฉบับแรก 

ส่วนร่าง พ.ร.บ. การโอนงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้น ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลได้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นจากประชาชนเรื่องผลกระทบต่าง ๆ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 แล้วหรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญระบุไว้ชัดเจนว่า การจะเสนอกฎหมายใด ๆ เข้าสภาต้องผ่านการทำประชาพิจารณ์ก่อน

ส่วนระยะเวลาการพิจารณา พ.ร.ก. และ พ.ร.บ. ต่าง ๆ จะใช้เวลากี่วันนั้น ยังไม่ได้หารือกัน เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะไม่เปิดประชุมสมัยวิสามัญ รอเปิดประชุมสภาตามปกติในวันที่ 22 พ.ค. นั้น คิดว่าการดำเนินการพิจารณากฎหมายคงไม่ล่าช้า เพราะขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่นานจะเปิดประชุมสภาตามปกติแล้ว