นักวิเคราะห์หลายรายจาก 'เจพีมอร์แกนเชส' บริษัทด้านการเงินระดับโลกมองว่า กลยุทธ์การปล่อยโทรศัพท์รุ่นใหม่ของแอปเปิลอาจเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นมา โดยจะปรับมาออกไอโฟนรุ่นใหม่ปีละ 2 ครั้ง และจะเริ่มในปี 2564

การปรับเปลี่ยนดังกล่าวจะช่วยให้แอปเปิลสามารถพัฒนาและแก้ไขสินค้าได้ราบลื่นขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขับกับบริษัทมือถือรายอื่นที่ปล่อยโทรศัพท์รุ่นใหม่กันตลอดทั้งปี

ตั้งแต่ปี 2554 แอปเปิล มีวัฒนธรรมในการปล่อยไอโฟนรุ่นใหม่ในราวเดือนกันยายนถึงตุลาคม ซึ่งเป็นการกระตุ้นยอดขายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่จะได้รับแรงส่งจากช่วงวันหยุดและสินค้าใหม่ๆ ของบริษัท โดยหากแอปเปิลตัดสินใจปรับแผนการขายจริง บริษัทจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการดำเนินการไม่น้อย 

'ซามิค ชัตเทอร์จี' นักวิเคราะห์จาก เจ.พี. มอร์แกน กล่าวในบทคาดการณ์ว่า ไอโฟนรุ่นใหม่ 2 รุ่นอาจจะวางขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 และอีก 2 รุ่น ในช่วงครึ่งหลังของปีเดียวกัน ขณะที่ในปี 2563 จะมีไอโฟนรุ่นใหม่ 4 รุ่น วางขายในเดือนกันยายน พร้อมกับเชื่อได้ว่าแอปเปิลจะผลิตไอโฟนรุ่นประหยัดที่คล้ายคลึงกับไอโฟน 8 ออกมาด้วยเช่นเดียวกัน โดย ซามิค มองว่า ไอโฟนใหม่ทั้ง 4 รุ่น จะรองรับเทคโนโลยี 5จี ได้

ซามิคมองว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ไอโฟนทุกรุ่นจะมีหน้าจอ OLED ทั้งสิ้น และมีขนาดหน้าจอทั้ง 5.4, 6.1 และ 6.7 นิ้ว พร้อมกันนี้ ในรุ่นหน้าจอขนาดใหญ่ทั้ง 2 แบบ จะรองรับ mmWave ด้วยเช่นเดียวกัน อีกทั้งจะมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวและระบบเซ็นเซอร์ 3 มิติ ขณะที่รุ่นรองลงมาจะรองรับเพียง sub-6 GHz และกล้องหลังแค่ 2 ตัวเท่านั้น

โดยนักวิเคราะห์มองว่า การเพิ่มขนาดหน้าจอและการรองรับสัญญาณ 5 จี จะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคยอมซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ 

อ้างอิง; CNBC, CNN