ไม่พบผลการค้นหา
พรรคเพื่อไทย สอน 'ประยุทธ์' หาความรู้เพิ่ม การเงินแข็งแรงเพราะทุนสำรองมาก แต่เศรษฐกิจทรุด ชี้ได้บุญเก่าสะสมมาหลายรัฐบาลแนะแก้รัฐธรรมนูญแล้วเลือกตั้ง เศรษฐกิจจะดีขึ้นทันที

กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรม คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กล่าวว่า การเงินแข็งแกร่งเกินไปมีทุนสำรองเยอะ มีดุลการชำระเงินเดินสะพัดเกินเยอะ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง การคลังของไทยไม่ได้ล้มละลายอย่างที่มีคนพูดถึง แต่ไม่ได้แปลว่าเศรษฐกิจไทยจะดี

"อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ไปศึกษาปัญหาก่อนพูด เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำมาตลอด 6 ปี การส่งออกขยายตัวต่ำมาก แต่การนำเข้าก็ลดลงด้วยเพราะราคาน้ำมันที่ลดลงอีกทั้งไม่มีการนำเข้าสินค้าทุนเข้ามาเนื่องจากการลงทุนของไทยลดลงมากมาตลอด ดังนั้นการที่มีทุนสำรองมากที่เกิดมาจากการสะสมทุนมาหลายรัฐบาลไม่ได้เกิดเฉพาะจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จะยิ่งทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่า และยิ่งเพิ่มปัญหาการส่งออก และพอการลงทุนหดหายจึงทำให้บัญชีเดินสะพัดเกินดุล ยิ่งทำให้ค่าบาทแข็ง แต่ประเทศไม่ได้พัฒนา พล.อ.ประยุทธ์ต้องทำความเข้าใจให้ดี อย่าพูดแต่ด้านดี เพราะด้านเสียมีมากกว่า" กฤษฎา ระบุ

ทั้งนี้ การที่มีทุนสำรองมากมาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิวัติเข้ามา แทนที่จะหาทางลงทุนพัฒนาประเทศ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน หาประโยชน์จากการมีเงินทุนสำรองสูง กลับไม่ทำ อ้างว่าไม่มีเงิน ไม่อยากสร้างหนี้ ทำรถไฟความเร็วสูงก็ทำแค่ 3 กิโลเมตร อีกทั้งอาจจะต้องทำถนนลูกรังให้หมดก่อน แต่พอมีวิกฤตการณ์ไวรัสโควิดกลับกู้เงินและใช้เงินได้เป็นล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินเมื่อสายแล้ว ซึ่งถ้ารู้จักใช้เงินล้านล้านบาทเพื่อพัฒนาประเทศก่อนหน้านี้ เศรษฐกิจไทยก็คงไม่แย่ถึงขนาดนี้ นี่แสดงถึงการขาดความรู้ความเข้าใจ และ ด้อยความสามารถของพล.อ.ประยุทธ์ จึงทำให้ประเทศย่ำแย่ 

กฤษฎา ระบุว่า สาเหตุเพราะมีเงินทุนสำรองอยู่ในระดับที่สูง กว่า 2.557 แสนล้านดอลล่าร์นี่เอง ที่ทำให้เศรษฐกิจไทยไม่ได้ล้มละลายไม่เหมือนในปี 2540 สมัยต้มยำกุ้งที่ทุนสำรองหายหมดเนื่องจาก ธปท.นำทุนสำรองไม่สู้ค่าเงินบาทในสมัยนั้น การที่ทุนสำรองสูงในปัจจุบันที่สะสมมาหลายรัฐบาล แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับไม่ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศในตลอด 6 ปีที่ผ่านมา และทำให้ค่าเงินบาทแข็งในขณะที่เศรษฐกิจไทยทรุดหนัก จะทำให้เศรษฐกิจไทยค่อยๆ เสื่อมลงเรื่อยๆลักษณะเหมือนที่สื่อต่างประเทศบอกว่าเป็นหายนะในแบบสโลโมชั่น หรือ สภาวะกบต้ม ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยบอกไว้ คือค่อยๆ เจ๊งไปเรื่อยๆ ไม่ได้เจ๊งเลยทีเดียว และการคลังยังไม่ได้ล้มละลายเหมือนที่บางท่านอาจไม่เข้าใจ 

ดังนั้นจึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าใจให้ถูกต้อง อย่าโม้ในเรื่องที่ตัวเองไม่เข้าใจ โดยสภาพความจริงของเศรษฐกิจไทยกำลังย่ำแย่ สถานะการเงินของประเทศที่มีทุนสำรองมากเป็นจุดดีของไทย แต่กลับไม่สามารถนำมาทำให้เกิดประโยชน์ได้ แถมยังเป็นโทษเพราะทำให้ค่าเงินบาทแข็งซึ่งทำให้การส่งออกที่แย่อยู่แล้ว ต้องแย่ลงไปอีก พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเรียนรู้ในการที่จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยพัฒนาต่อไปได้ อะไรจะเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต ถ้าคิดไม่ออกก็ให้ไปอ่านแนวทางที่คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยเสนอไว้แล้ว และเปิดใจรับฟังและนำมาพิจารณาปฏิบัติ

อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ ควรต้องพิจารณาตัวเองแล้วว่าความรู้ความสามารถไม่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบัน ยิ่งบริหารประเทศยิ่งแย่ ดังนั้นจึงควรอย่าขวางและรีบเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แล้วรีบจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพราะเมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่ที่เป็นประชาธิปไตยก็จะไม่มี 250 ส.ว. มาช่วยโหวตนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ก็จะแพ้การเลือกตั้งอย่างแน่นอน แล้วประเทศไทยก็จะได้มีคนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงมาบริหารประเทศแทนคนที่ด้อยความสามารถ ประเทศไทยก็จะพัฒนาต่อไปได้ ดังนั้นหากพล.อ.ประยุทธ์รักประเทศจริงอย่างที่พูด จะต้องทำเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน