ไม่พบผลการค้นหา
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปลุกจิตสำนึกมาตรฐานสมาร์ทโฟร์ฟู้ดทรัค เน้นความสะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล พร้อมจับมือฟู้ดทรัคคลัสเตอร์ประเทศไทย ให้ความรู้ตรวจเช็กสภาพรถ ระบบไฟฟ้าให้พร้อมใช้งาน สร้างความมั่นใจผู้บริโภค

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมร้านจำหน่ายสินค้าเคลื่อนที่ หรือ ฟู้ดทรัค มีจำนวนรถฟู้ดทรัคกว่า 1,500 คันทั่วประเทศ แบ่งเป็นอาหารคาวร้อยละ 57 อาหารหวานร้อยละ 14 และเครื่องดื่มร้อยละ 29 ส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในกรุงเทพฯกว่าร้อยละ 70 ที่เหลือ ร้อยละ 30 อยู่ในส่วนภูมิภาค 

โดย กสอ.ได้ร่วมกับ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย กรมการขนส่งทางบก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันอาหาร สถาบันยานยนต์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ในการส่งเสริมและพัฒนาให้ฟู้ดทรัคมีมาตรฐานสากลที่เรียกว่า "สมาร์ทโฟร์ฟู้ดทรัค (SMART4 Food Truck)" เน้นความมีมาตรฐาน ความปลอดภัย และชีวอนามัย ทั้ง คน ครัว รถ และ ตลาด

ที่ผ่าน กสอ. ได้ฝึกอบรมพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัคให้ได้มาตรฐาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วม จำนวน 104 ราย และมีผู้ผ่านการอบรมแล้ว 2 รุ่น รวมจำนวนทั้งสิ้น 44 ราย รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการรวมตัวและสนับสนุนกันเป็นเครือข่ายของผู้ประกอบการฟู้ดทรัคเป็นฟู้ดทรัคคลัสเตอร์ประเทศไทยขึ้น ปัจจุบันมีสมาชิกเข้าร่วมคลัสเตอร์จำนวน 136 ราย ซึ่งยังมีฟู้ดทรัคอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้เข้าร่วมการพัฒนาของ กสอ.

สำหรับกรณีที่ปรากฎเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ ว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะถูกไฟฟ้าดูด ขณะไปรับประทานอาหารที่ร้านฟู้ดทรัค เมื่อคืนวันที่ 2 ก.ค. 2562 ที่ผ่านมา นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังสืบสวนข้อเท็จจริงอยู่ แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเกิดจากรถฟู้ดทรัคหรือไม่ แต่ กสอ. ได้ตระหนักและเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการทุกรายเห็นถึงความสำคัญของมาตรฐานสมาร์ทโฟร์ โดยเฉพาะในด้านของรถที่นอกจากจะมีความปลอดภัยตามกฎหมายและกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ จาก กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม แล้ว ระบบไฟฟ้า ระบบแก๊สต่างๆ ที่ถูกติดตั้งจะต้องอยู่ในลักษณะมีความปลอดภัย ทั้งสำหรับตัวผู้ขายเอง รวมถึงผู้บริโภค 

ซึ่งการตรวจสอบความปลอดภัยเบื้องต้นของรถฟู้ดทรัค คือ 1. มีสายดิน 2. ใช้สายไฟ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน มอก. 3. มีอุปกรณ์ตัดกระแสไฟฟ้ารั่วอัตโนมัติ 4. หมั่นตรวจสอบสภาพรถฟู้ดทรัค 

ทั้งนี้ เพื่อความมั่นใจ กสอ. ได้ร่วมกับการฟู้ดทรัคคลัสเตอร์ประเทศไทยให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคเองยังสามารถนำฟู้ดทรัคไปตรวจสภาพ และขอคำแนะนำได้จากบริษัทเอกชนที่เป็นสมาชิกคลัสเตอร์ฟู้ดทรัคประเทศไทย เช่น บริษัทสยามออโต้อีเวนต์คาร์จำกัด บริษัทมีโชครุ่งเรืองกิจจำกัด หรือ บริษัทเชิดชัยกลการ จำกัด ฯลฯ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ตรวจสอบสภาพรถ ระบบไฟฟ้า สายไฟและเบรคเกอร์ ให้พร้อมกับการใช้งาน จึงขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคทั่วประเทศเข้ามาร่วมพัฒนาให้ได้มาตรฐานสมาร์ทโฟร์และเข้าร่วมกับเครือข่ายคลัสเตอร์ฟู้ดทรัคที่จะช่วยกันดูแลฟู้ดทรัคทุกคันให้มีความปลอดภัย และมีอาชีวอนามัยที่ดี 

นอกจากนี้ กสอ. ยังมุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ให้เติบโตอย่างเป็นรูปธรรม เกิดความเข้มแข็งและมีความยั่งยืน โดยล่าสุดได้เปิดอบรมหลักสูตรพัฒนานักธุรกิจฟู้ดทรัคหน้าใหม่ หรือ Startup Food Truck ร่วมกับสถาบันอาหาร จำนวน 2 รุ่นๆ ละ 50 คน พบว่ามีสนผู้ใจสมัครเป็นจำนวนมากจนเต็มแล้วทั้ง 2 รุ่น และ กสอ. ยังได้ร่วมกับผู้ประกอบการเครือข่ายฟู้ดทรัคให้โอกาสแก่ผู้ที่จะเริ่มต้นธุรกิจนี้มาเช่าและทดลองขายบนรถฟู้ดทรัค โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในช่วงแรก ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี มีผู้สนใจกว่า 40,000 ราย ภายใน 2 วัน ปัจจุบันคิวจองทดสอบตลาดเต็มยาวไป 2 เดือน จึงปิดรับสมัครและกำลังเตรียมการที่จะเพิ่มจำนวนรถฟู้ดทรัคมาให้ทดลองทดสอบตลาดเพิ่มเติมในไม่ช้า 

ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ทั้งมาตรการการพัฒนาบ่มเพาะผู้ประกอบการฟู้ดทรัคให้เข้มแข็ง ผ่านการอบรมบันได 5 ขั้น สู่ความสำเร็จในธุรกิจฟู้ดทรัค มาตรการการพัฒนาเครือข่ายอุตสาหกรรมฟู้ดทรัคในระดับประเทศ มาตรการการเชื่อมโยงสู่ตลาดฟู้ดทรัค รวมถึง มาตรการเตรียมความพร้อมทางด้านเงินทุนทุกมาตรการดังกล่าว จะส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการฟู้ดทรัคได้มากกว่า 3,500 ราย และคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,260 ล้านบาท อีกทั้งยังทำให้ฟู้ดทรัคอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมและสังคมไทยได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน