นายแพทย์ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีรายการโทรทัศน์ ประเภทจิตวิญญาณลี้ลับ ที่นำมาสู่ข้อวิพากษ์วิจารณ์ทางสังคมที่กว้างขวางหลากหลาย มีสื่อหลายด้านโดยเฉพาะโทรทัศน์ นำเสนอเป็นประเด็นต่อเนื่อง จนมีหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ข่าวแบบนี้สมควรนำเสนอหรือให้แง่คิดกับผู้ที่รับชมหรือไม่อย่างไรนั้นว่า การสร้างเรื่องลี้ลับให้เป็นประเด็นน่าสนใจในสังคม มีทำกันมาหลายครั้งหลายหน เมื่อมีการต่อข่าว ก็เป็นกระแสดราม่าไปเรื่อยๆ ข้อเสนอแนะของตนคือกระแสเรื่องลี้ลับเหล่านี้ สื่อไม่ควรไปนำเสนอมาก เพราะส่วนใหญ่เรื่องของความเชื่อนั้น หลักๆ แล้วคือการหลอกลวง และไม่มีใครได้ประโยชน์ ถ้าเป็นการตามข่าว เล่นข่าวไปเรื่อยก็เหมือนเป็นการให้แรงเสริมกับข่าวที่ไม่มีสาระ    

ด้านผู้ชมก็ไม่ควรติดตามสื่อที่มีการนำเสนอข่าวเช่นนี้ เพื่อสะท้อนกลับว่าผู้ชมก็มีวิจารณญาณพอและว่าสิ่งที่สื่อควรจะทำคือ เสนอข่าวเรื่องนี้ได้แต่นำเสนอในมุมกลับเตือนสติให้สังคม หรืออาจจะเพิกเฉยไม่นำเสนอเลยก็ได้ ประชาชนก็ควรเตือนกันเองให้มีสติมากขึ้น เลิกส่งต่อข้อความหรือรายการที่มีเนื้อหาลี้ลับเช่นนี้ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญคือผู้ควบคุมรายการ กสทช. สามารถใช้ระเบียบมาตรฐานการเป็นวิชาชีพ สื่อสารมวลชนที่ดีมาพิจารณา ไม่อนุญาตให้ออกอากาศรายการประเภทนี้ได้ หรือทำการยึดใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ 

นายแพทย์ยงยุทธยังกล่าวว่า การมองว่าคนอย่าง เรนนี่ หรืออีกหลายบุคคล มีลักษณะของการป่วยทางจิตว่า ไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป ปัญหามีหลายระดับ เช่นบุคลิกภาพ นิสัยของคน เป็นเรื่องที่สังคมต้องมีวิจารณญาณในการรับรู้ข่าวสาร ไม่ใช่พอมีปัญหา ก็หาว่าคนพวกนี้ป่วยจิต เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นด้วยเรื่อยๆ สังคมต้องเติบโตขึ้น จะมองเห็นได้ว่าเรื่องลี้ลับเหล่านี้เกิดมาสลับกับช่วงที่ปลอดจากข่าวการเมือง เศรษฐกิจสังคมตลอดเวลา ฝากประชาชนอย่าส่งต่อสิ่งที่ไม่มีสาระ หรืออาจจะเป็นโทษด้วยซ้ำ ส่วนสื่อควรให้ข้อคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ อย่าตอบโต้ด้วยวิธีการรุนแรง ซึ่งจะช่วยให้สังคมไทยลดเรื่องราวไร้สาระแบบนี้ได้