ไม่พบผลการค้นหา
'เลขา ครป.' จี้ '4 นายพล' ตอบคำถามคดี 'ค้ามนุษย์' เรียกร้อง 'ประวิตร-จักรทิพย์' รับผิดชอบโยกย้ายไม่เป็นธรรม ชี้ขบวนการค้ามนุษย์เกิดจากช่องโหว่ของนโยบายด้านความมั่นคงและงบลับทางการทหาร และ 'ประยุทธ์' ไฟเขียวรู้เห็นเป็นใจ

วันที่ 20 ก.พ. 2565 เมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงเรื่องขบวนการค้ามนุษย์ว่า ต้องขอขอบคุณ รังสิมันต์ โรม ได้ทำให้สังคมไทยเข้าใจปัญหานี้ทางโครงสร้างอย่างชัดเจนขึ้นในระบอบอำนาจนิยมอุปถัมภ์ของชนชั้นนำไทย

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 คือตำรวจน้ำดีที่สุดคนหนึ่งในวงการตำรวจไทย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ควรจะรักษาไว้และให้รางวัลเชิดชู ไม่ใช่ขับไสไล่ส่งออกไปจากองค์กรจนกระทั่งต้องขอลี้ภัยไปต่างประเทศ เพราะแพ้ภัยอำนาจอิทธิพลที่กลายเป็นรัฐซ้อนรัฐในรูปของพี่น้องโรงเรียนเตรียมทหาร และนายร้อย จปร. ที่กลายเป็นระบบอุปถัมภ์นิยม ทั้งในหน่วยงานราชการ อำนาจเถื่อนและเศรษกิจสีเทา

"โครงสร้างสังคมไทยลักษณะนี้จึงอนุญาตให้แก๊งมาเฟีย เจ้าพ่อค้ายา ผู้มีอิทธิพลเถื่อน เข้าสู่ระบบ และมีหน้ามีตาในสังคมการเมืองไทย กระทั่งนั่งอยู่ในรัฐสภา" เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าว

เมธากล่าวอีกว่า การที่ พล.ต.ต.ปวีณ ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ทั้งที่เป็นตัวหลักในการทำคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา จนสามารถจับกุมนายทหารระดับนายพล ตำรวจยศใหญ่ กระทั่งนักการเมืองท้องถิ่นได้หลายคนนั้น

"ผมคิดว่ามีคนที่จะต้องรับผิดชอบและตอบคำถามในเรื่องนี้หลายคน ไม่ใช่แค่ตอบคำถามประชาชนไทย แต่ตอบคำถามประชาคมโลกด้วย" เมธากล่าว

เมธากล่าวอีกว่า คนที่หนึ่ง คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่นั่งเป็นประธานที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวันที่ 21 ต.ค.58 และมีคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณ ไปรักษาราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.ประวิตร ต้องรับผิดชอบและตอบคำถามว่า กลั่นแกล้งสั่งย้ายทำไม หรือตั้งใจส่งเขาไปตายหรือไม่

"เพราะชายแดนใต้เป็นพื้นที่พิเศษ เต็มไปด้วยอำนาจมืดและขบวนการที่เกี่ยวข้องในเส้นทางค้ามนุษย์ริมชายแดน ทำไมไม่ให้เขาทำงานคดีต่อต้านขบวนการค้ามนุษย์ต่อไป หรือมอบอำนาจเลื่อนตำแหน่งให้" เมธากล่าว

เมธากล่าวอีกว่า คนที่สอง คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่เพิ่งได้เป็น ผบ.ตร.คนใหม่ในขณะนั้น ที่อ้างว่าได้รับคำแนะนำจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนเตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 16 ของ พล.ท.มนัส คงแป้น จำเลยคนสำคัญในคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ว่าให้ย้ายไปชายแดนใต้เนื่องจาก พล.ต.ต.ปวีณ เชี่ยวชาญกฎหมายความมั่นคง

"พล.ต.อ.จักรทิพย์ ต้องรับผิดชอบและตอบคำถามในเรื่องนี้ว่า การสั่งย้ายทั้งๆ ที่มีคดีค้างอยู่และมีผลงานเป็นที่ปรากฎถือเป็นการกลั่นแกล้งและปฏิบัติหน้าที่มิชอบหรือไม่ และได้สอบถามความสมัครใจเจ้าตัวในการสั่งย้ายนี้ด้วยหรือเปล่า" เมธากล่าว

เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ผู้นี้กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หลังจากคดีนี้พัวพันกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายและ พล.ต.ต.ปวีณ หัวหน้าชุดทำคดี ได้ถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายการเมือง จนตัดสินใจทำหนังสือลาออกเมื่อ 5 พ.ย.58 และขอลี้ภัยภายหลังขอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ทบทวนคำสั่งไม่สำเร็จนั้น ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคงได้เห็นปัญหาจึงพยายามขอให้ พล.ต.ต.ปวีณ ยับยั้งใบลาออกและให้โอนย้ายไปทำงานในสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (สนง.นรป.904) แทน หรือย้ายไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเพื่อดูคดีค้ามนุษย์ต่อ เพื่อให้ตำรวจน้ำดีได้ทำงานช่วยบ้านเมืองต่อไป

"แต่ขณะไปถอนใบลาออกในอีกวันต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. กลับบอก พล.ต.ต.ปวีณ ให้ลาออกไปอยู่เงียบๆ แทน โดยต่อสายให้ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย ข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ประจําสํานักพระราชวังพิเศษ ซึ่งเป็นผู้เสนอทางเลือกนี้ ได้ยืนยันกับ พล.ต.ต.ปวีณ โดยตรง" เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าว

เมธากล่าวว่า ประเด็นนี้ทำให้ พล.ต.ต.ปวีณ อาจกลัวว่าการปฏิเสธเข้าสำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ อาจเป็นภัยคุกคามจากการปฏิเสธก็ได้ จึงขอลี้ภัยไปยังออสเตรเลีย เพราะอยู่ใน สตช.ก็ไม่ได้แล้ว อาจมีภัยจากการทำคดีค้ามนุษย์และอาจถูกกลั่นแกล้งคดี ม.112 ดังนั้น คนที่สาม ที่ต้องตอบคำถามก็คือ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย นั่นเอง ว่าเขารับงานใครมาหรือไม่? ทำไมเสนอทางเลือกใหม่ต่างไปจากสองทางเลือกแรกและขัดกับข้อเสนอของผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่ต้องการให้ไปช่วยงานในตำรวจสอบสวนกลาง

"ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.จุมพล ก็ได้กลายเป็นผู้ต้องหาคดีประพฤติชั่วร้ายแรงและบุกรุกพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติ โดยสำนักพระราชวังลงโทษไล่ออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพระราชวังฝ่ายความมั่นคงและกิจกรรมพิเศษ ในวันที่ 27 ก.พ. 2560 ปัจจุบันพ้นโทษออกมาแล้ว" เมธากล่าว

สำหรับข้อครหาที่ว่า พล.ท.มนัส เสียชีวิตในเรือนจำจากเหตุหัวใจวายนั้นมีการตัดตอนคดีหรือไม่ ในเรื่องนี้กรมราชทัณฑ์เคยเผยแพร่เอกสารยืนยันการเสียชีวิตของ พล.ท. มนัส ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ ในวันที่ 2 มิ.ย. 2564 แล้ว หลังจากเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ 1 เดือน เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือความดันโลหิตสูง ไขมันในโลหิตสูง และหัวใจเต้นช้ากว่าปกติ และได้เสียชีวิตขณะเดินออกกำลังกายแล้ววูบหมดสติ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผบ.เรือนจำ อาจต้องเผยแพร่เอกสารผลชันสูตรจากแพทย์ด้วย

เมธากล่าวอีกว่า และคนที่สี่่ ที่ต้องรับผิดชอบและตอบคำถามสังคมไทยคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง ย่อมรู้เห็นเป็นใจไม่มากก็น้อย เพราะ พล.ต.ต.ปวีณ กำลังทำคดีสำคัญเพื่อกู้หน้าประเทศไทย สร้างภาพลักษณ์ใหม่แก่ประชาคมโลก หลังจากที่ถูกกดดันจากผลการจัดระดับประเทศไทยในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (Trafficking in Persons Report: TIP Report) ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศของไทย

"นอกจากนั้น พล.ต.ต.ปวีณ เคยทำเรื่องขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยทบทวนคำสั่งด้วย แต่ก็ไม่มีการตอบรับ พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะรู้เห็นเป็นใจและไฟเขียวด้วย" เมธากล่าว

เมธากล่าวอีกว่า ขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทยเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก บุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และกลายเป็นกลุ่มที่เกี่ยวพันกับกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติไปโดยปริยาย

"จึงอาจทำให้รูปแบบองค์กรอาชญากรรมเหล่านี้อาจถูกนำตัวขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศไทยได้เช่นกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ" เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าว

เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวอีกว่า เบื้องหลังของขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญาล้วนเป็นตัวอย่างที่น่าศึกษา เพราะทำกันอย่างเป็นระบบ มีผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ระหว่างทางมีผลประโยชน์มหาศาลเป็นเดิมพัน

"จากการที่มีการเปิดเผยค้นพบแคมป์พักชั่วคราวของขบวนการค้ามนุษย์บนเทือกเขาแก้ว ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา อ.รัตภูมิ หลายพื้นที่ในจังหวัดสงขลาในปี 2558 ซึ่งถูกสร้างขึ้นในลักษณะเกือบถาวรและรอบบริเวณยังพบหลุมฝังศพมากมายหลายสิบหลุมจนโลกต้องตะลึง นอกจากนี้ยังพบที่ จ.พังงา จ.ชุมพร และ จ.ระนอง ด้วยโดยมีทั้งชาวโรฮิงญา พม่า ไทย และมาเลเซีย เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้" เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าว