เรียกเสียงฮือฮาในโลกโซเชียล หลัง ‘เมญ่า นนธวรรณ’ Miss Thailand World 2014 ปล่อยภาพลุคคุณแม่ท้องแก่สุดแปลกในตีม ‘Drag mom’ (แดร๊ก มัม) แหวกแนวทุกแฟชั่นกับการถ่ายภาพอุ้มท้องลูกชายคนแรก น้อง ‘เบลิน’

'เมญ่า' ให้สัมภาษณ์กับ ‘วอยซ์ ออนไลน์’ ว่า ตอนแรกเธออยากแต่งเป็นนางเงือกที่ท้อง และอยากทำให้สมจริงที่สุด แต่ด้วยขั้นตอนที่ลำบาก เรื่องของการหล่อหาง และท้องที่โตมาก เธอเลยต้องยกไป หลังจากนั้นมีโอกาสได้เจอกับ ‘ไจ๋ ซีร่า’ แดร๊กควีนระดับอินเตอร์ และ ‘นาตาเลีย เพลียแคม’ ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน Drag Race Thailand จึงเสนอความคิดการแต่งเป็นแดร๊ก ก็เลยได้ไอเดียนี้มา ซึ่งเป็นสิ่งที่เมญ่าอยากจะแต่งมาตั้งนานแล้ว โดยเธอมองว่าการเป็นแดร๊กไม่จำเป็นต้องผู้ชายเท่านั้นที่สามารถแต่งได้ แต่คือ ศิลปะ ที่แสดงถึงความสามารถและตัวตนของคนที่แต่ง

หลังจากปล่อยภาพออกไป มีหลายกระแสเข้ามาถึงตัวเธอ ทั้งดี และไม่ดี บางคนถามเธอว่าแต่งแบบนี้ไม่กลัวลูกกลัว หรือลูกออกมาเป็นเกย์หรอ เธอมองว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะอยู่ที่เมื่อลูกเติบโตมา เค้าต้องการเป็นอะไร ซึ่งเธอก็ไม่ได้ซีเรียส

“ด้วยความที่เติบโตมา และแวดล้อมด้วยคนกลุ่มนี้ รู้สึกว่าคนเหล่านี้เป็นบุคคลที่ดีกลุ่มนึงในสังคม แล้วหนูรู้สึกว่าคนเราจะดีหรือไม่ดี ไม่เกี่ยวว่าเพศอะไร ไม่เกี่ยวว่าหน้าตายังไง ชนชาติไหน หรือฐานะเป็นยังไง คนจะดีหรือไม่ดีมันอยู่ที่จิตสำนึกของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นแค่เราเลี้ยงให้เป็นคนดี อันนั้นสำคัญกว่า ไม่ใช่ว่าเราจะผลักไสให้ลูกเป็น”

เมญ่ายังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้เธอเคยเสียความรู้สึกจากคนรอบข้าง เรื่องชื่อของลูกชายเธอ 'เบลิน' เพราะมีหลายคนเห็นว่า คำว่า ‘ลิน’ ดูเหมือนเป็นผู้หญิง

หลายคนถามว่า "ไม่กลัวลูกเป็นเกย์หรอ" จนเธอคิดได้ว่าคนเราจะเป็นยังไงมันไม่เกี่ยวกับชื่อ ต่อให้เธอตั้งชื่อลูกที่ดูเป็นผู้ชายขนาดไหน ถ้าลูกอยากจะเป็น เขาก็จะเป็นอยู่ดี เช่น ชื่อน้องบอย แล้วถ้าลูกเกิดอยากเป็นผู้หญิงขึ้นมา จะทำอย่างไร ถ้าเขาอยากเลือกเค้าก็เป็นอยู่ดี เธอจึงให้สิทธิ์ในการเลือกและตัดสินใจ ซึ่งชื่อเบลิน เป็นชื่อ Unisex ที่สามารถใช้ได้ท้ั้งผู้หญิงและผู้ชาย

“ลูกอาจจะอยากเป็นผู้ชายปกติก็ได้ หรืออยากเป็นผู้ชายที่จะมาสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั้งโลก มีศิลปะ หรือเค้าอาจจะอยากเป็นแดร๊กก็ได้ ใครจะไปรู้”

เมญ่าเผยถึงความเห็นเกี่ยวกับการเป็นว่าที่คุณแม่ที่เปิดกว้างว่า “หนูรู้สึกว่าการที่สังคมไทย จะผ่านมาขนาดนี้แล้วการตัดสินคนยังมีอยู่ หนูรู้สึกว่าอยากเป็นส่วนเล็กๆ เป็นกลุ่มคนที่เป็นแม่คน ... หนูอยากเป็นจุดเริ่มต้น หรือจุดๆ นึงในการเปลี่ยนแปลงอนาคตของเจเนอเรชั่นหลัง โดยเริ่มจากลูกตัวเอง เพื่อเค้าจะได้ไปสอนๆ ต่อไป หรือให้ความเห็นกับรุ่นลูกเค้าอีก ซึ่งมันคงจะน่าอยู่แล้วแหละที่คนจะไม่ตัดสินกันตั้งแต่ภายนอก เราจะไม่ตัดสินกันว่าเค้าเป็นเพศไหน หรือว่ารูปลักษณ์ยังไง หรือชื่ออะไร”

"ถ้าวันนึงเค้าเลือกที่จะเป็น เค้าก็ต้องเป็น เราจะไปห้าม หรือพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจ หนูว่าอย่างนั้นครอบครัวกำลังสร้างปมให้ลูก แล้วหนูไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก" เมญ่า กล่าว