ไม่พบผลการค้นหา
ช.ส.ค. ยันรายชื่อสมาชิกกว่า 16000 รายชื่อ ยื่นต่อ อนุ กมธ. ด้านสหกรณ์ สนช.ดันร่าง พ.ร.บ.สวัสดิการฯ หวังพัฒนาคุณภาพชีวิต

เมื่อ (วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2560) นายสุภาพ จันทร์ภิรมย์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด( ช.ส.ค.) พร้อมด้วยคณะกรรมการ และฝ่ายจัดการ นำโดยนายดาบชัย ใจสู้ศึก ผู้จัดการใหญ่ ได้ร่วมกับ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย จำกัด(สสท.) โดยมีนายมงคลัตถ์  พุกะนัดด์ ประธานสันนิบาตสหกรณ์ฯ ได้ร่วมยื่นคำร้องขอเสนอสำเนาร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่..) พ.ศ. ....พร้อมเอกสารการลงลายมือชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ร่วมเข้าชื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว จำนวน 16,589 คน ต่อพลเรือเอกศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง ประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาด้านสหกรณ์และด้านอื่นๆ ในคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับหนังสือเพื่อทบทวนพิจารณาต่อไป ณ อาคารรัฐสภา อาคาร 1

ทั้งนี้ นายสุภาพ จันทร์ภิรมย์ ประธาน ช.ส.ค.กล่าวว่า   ชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน แห่งประเทศไทย จำกัด มีฐานะเป็นชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศของสหกรณ์ประเภทเครดิตยูเนี่ยน ได้ดำเนินการจัดตั้งกองทุนสวัสดิการและการสงเคราะห์แก่สมาชิกตั้งแต่ปี ๒๕๑๗ โดยที่ผ่านมาคณะผู้บริหารชุมนุมสหกรณ์เครดิตรยูเนี่ยนฯ หรือ ช.ส.ค. ได้นำหนังสือมายื่นต่อ สนช.เพื่อพิจารณาในร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งปรากฏว่าประธานสภาได้เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวฯ และในวันนี้คณะผู้บริหารจึงได้สานต่อด้วยการยื่นคำร้องขอเสนอสำเนา ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว พร้อมเอกสารการลงลายมือชื่อของผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวบรวมรายชื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสมาชิกกว่า 16,000 ราย “เพื่อเสนอสำเนาร่างกฎหมาย ทั้งนี้ร่างมาตรา 105/1 ซึ่งจะทำให้ชุมนุมสหกรณ์ระดับประเทศ มีอำนาจร่วมกับสหกรณ์สมาชิกจัดสวัสดิการเพื่อส่งเสริมระบบสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของสมาชิกสหกรณ์ได้”  

“ในการยื่นรายชื่อต่อ สนช.วันนี้ เป็นรายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้อง และเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตรยูเนี่ยนกว่า 16000 รายชื่อ ซึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิและมีอำนาจร่วมกับสหกรณ์เพื่อจัดสวัสดิการ เพื่อยืนยันว่าเป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ อย่างแท้จริง”  

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสหกรณ์/กลุ่มเครดิตยูเนี่ยนมีกว่า 1,000 แห่ง มีสมาชิกกว่า 1,300,000 คน ทั่วประเทศ ซึ่งในการจัดสวัสดิการดังกล่าวของชุมนุมสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนแห่งประเทศไทย จำกัด เป็นความพยายามตอบสนองหลักการบริหารสมาชิกและหลักความรับผิดชอบต่อสังคมตามหลักการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสากล ตลอดจนเป็นการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของสมาชิกสหกรณ์ และสร้างหลักประกันที่มั่นคงแก่สมาชิก ครอบครัวและสังคมโดยรวม”