ไม่พบผลการค้นหา
นักรัฐศาสตร์ฟันธง รัฐบาลทำแค่ปลดล็อกเลือกตั้งท้องถิ่นแค่คลายอึดอัด ปล่อยแค่ อบต.ไปไม่ถึง เทศบาล อบจ. และ กทม. เพราะขาดความพร้อมด้านกฏหมาย

ประเด็นที่น่าติดตามความเคลื่อนไหวการเมืองวันนี้ คือการประชุมของรัฐบาลเพื่อหาแนวทางปลดล็อกการเมืองท้องถิ่นให้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ โดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตัวแทนจาก คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.),กระทรวงมหาดไทย และคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อหารือถึงการปรับแก้กฎหมายที่ว่าด้วยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นฉบับเดิมและกฎหมายใหม่ที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ในประเด็นดังกล่าวรศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม อาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองว่าผลสรุปของรัฐบาลในวันนี้หากมีการปลดล็อกจริงเชื่อว่าจะปลดล็อกได้แค่ในระดับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และ ในระดับเทศบาลเท่านั้น ให้มีสับเปลี่ยนวาระกันหลังจากที่อัดอั้นมานาน ตามประกาศของคสช. ที่๘๕/๒๕๕๗ ที่ให้นายกฯอบต.ยังอยู่ในวาระต่อไป

และมองว่าการที่อบต.อยู่ในตำแหน่งนานเกินไปอาจมีผลประโยชน์ในระหว่างที่อยู่ในตำแหน่งได้ และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของประชาชนที่อยากให้มีการปลดล็อกการเมืองอย่างจริงจัง แต่คสช.จะเริ่มที่ในระดับอบต.กับเทศบาลก่อนเท่านั้น

ส่วนการปลดล็อกในระดับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และนายกเมืองพัทยา รศ.ดร.โกวิทย์มองว่ายังจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะยังติดในเรื่องของข้อกฎหมายว่าด้วยการได้มาของตำแหน่งที่อาจขัดกับรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจึงต้องทำให้การเลือกตั้งมีความสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน อีกทั้งจะมีนัยยะต่อการเมืองระดับชาติ มีผลต่อการหาเสียง และสามารถรู้รับรู้ได้ถึงแนวโน้มการเมืองไทยที่จะเกิดขึ้น แต่หากมีการปลดล็อกจริงก็ถือว่ายุติธรรมกับการเมืองไทย

ส่วนประเด็นที่รัฐบาล คสช.และแม่น้ำ 5 สาย ไม่ได้เตรียมการด้านกฎหมาย สำหรับเลือกตั้งท้องถิ่นมาก่อน เตรียมการเฉพาะเลือกตั้งระดับชาติ คือ ส.ส. กับ ส.ว. แต่กลับจะมาปลดล็อกให้เลือกตั้งท้องถิ่นก่อน นั้น

รศ.ดร.โกวิทย์ มองว่า ที่ผ่านมาผู้บริหารประเทศเน้นเดินตามโรดแมปมากเกินไป จนลืมการปกครองในระดับท้องถิ่นแม้กระทั่งการปฏิรูปที่ผ่านมาในระดับอบต.ที่มีความคืบหน้าทั้งหมดไปได้แค่ร้อยละ 50 เท่านั้น

ทั้งนี้ไม่ว่ารัฐบาลจะปลดล็อกการเมืองท้องถิ่นในระดับใดก็ตาม ก็ถือเป็นสัญญานที่ดีที่จะนำไปสู่การปลดล็อกการเมืองในระดับชาติเพื่อเตรียมการสู่การเลือกตั้ง