ไม่พบผลการค้นหา
สหรัฐฯเผชิญกับความหนาวเหน็บอย่างรุนแรง แม้แต่ฉลามในมหาสมุทรแอตแลนติกยังแข็งตายเพราะทนกับสภาพอากาศไม่ไหว

ช่วงนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2018 ที่กำลังจะถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ พยากรณ์อากาศทั่วอเมริกาเหนือชี้ว่าเดิมที่อากาศหนาวเย็นรุนแรงอยู่แล้ว บางพื้นที่ของแคนาดาและสหรัฐฯอาจต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่กำลังจะลดต่ำลงอีกราว 20-40 องศาฟาเรนไฮต์ หรือราว 2 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว ซึ่งสำนักข่าว CNN ก็ได้นำภาพและคลิปวิดีโอจากหลายหลายสถานที่มาเรียบเรียงให้โลกได้รับรู้ว่าขณะนี้ชาวอเมริกันและแคนาดาต้องเผชิญกับภัยหนาวกันขนาดไหน 

เริ่มต้นที่คลิปแรก อุณภูมิที่ลดต่ำลงอย่างสุดขั้วที่แคนาดา ทำเอาน้ำที่ถูกสาดขึ้นไปในอากาศ "แข็งตัวกลางอากาศ" ทันที่ที่สัมผัสกับความหนาวเย็นก่อนที่จะตกถึงพื้นเสียอีก

อีกหนึ่งบทพิสูจน์ความหนาวที่เข้าขั้นวิกฤติก็คือการประกาศเปลี่ยนแปลงการจัดการแข่งขัน 'ฮ็อคกี' ที่ถือเป็นกีฬายอดฮิตประจำฤดูหนาวของชาวแคนาดา ซึ่งปกติแล้วจะมีการจัดแข่งขันแมตช์ใหญ่อย่าง The Bell Capital Cup ที่ลานเสก็ตน้ำแข็งกลางแจ้ง Canada 150 แต่สำหรับการแข่งขันในปีนี้ การแข่งขันกีฬาฮ็อคกีเยาวชนนานาชาติต้องมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่มาจัดที่ลานสเก็ตน้ำแข็งในร่มแทนเพราะอุณภูมิภายนอกไม่ปลอดภัยต่อทั้งผู้ชมและนักกีฬา 

มลรัฐแมตซาชูเซตส์ ของสหรัฐฯก็กำลังเผชิญกับความหนาวเหน็บอย่างรุนแรง จนแม้กระทั่งฉลามซึ่งอาศัยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกที่มีอุณหภูมิต่ำมากอยู่แล้วยังทนกับสภาพอากาศไม่ไหว ลอยตายเกยตื้นอยู่ที่ชายฝั่ง Cape Cod Bay เนื่องจากเกิดอาการช็อคจากอุณภูมิต่ำสุดขั้ว

มลรัฐมินนิโซตา สถานที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นกล่องน้ำแข็งของสหรัฐฯ ด้วยสถานที่ตั้งทางตอนเหนือสุดและมีอุณภูมิต่ำกว่าพื้นที่อื่นๆของประเทศ เผชิญกับอุณหภูมิติดลบสูงเป็นประวัติการณ์คือ -37.77 องศาเซลเซียส 

ส่วนที่เมืองวอเตอร์ทาว์นของมลรัฐนิวยอร์กอุณภูมิที่วัดได้คือ -35.55 จากปกติที่เคยหนาวสุดแค่ -30 องศาเซลเซียสเท่านั้น ซึ่งคาดการณ์ว่าช่วงเที่ยงคืนของวันที่ 31 ธันวาคม อุณหภูมิที่ไทมส์สแควร์ หนึ่งในสถานที่เคาท์ดาวน์ที่โด่งดังที่สุดในโลกใจกลางนครนิวยอร์อุณหภูมิจะอยู่ที่ -17.77 องศาเซลเซียส ทางการจึงเตือนประชาชนให้รักษาสุขภาพและอาจเลี่ยงการออกมาร่วมงานเคาท์ดาวน์กลางแจ้งหากเป็นไปได้