รัฐสภาเยอรมนีลงมติผ่านกฎหมายดังกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยห้ามทำสิ่งที่เรียกว่า "บำบัดแก้เพศวิถี" ที่มุ่งเปลี่ยนแปลงรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ กฎหมายนี้จะห้ามการโฆษณาหรือเสนอบริการบำบัดแก้เพศวิถีให้กับผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษปรับสูงสุด 30,000 ยูโร หรือโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี
ขณะเดียวกัน ภายใต้กฎหมายนี้เยาวชนก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมการบำบัดรักษาทางการแพทย์เพื่อมุ่งเปลี่ยนหรือขจัดรสนิยมทางเพศหรืออัตลักษณ์ทางเพศ ส่วนพ่อแม่หรือผู้ปกครองตามกฎหมายก็สามารถถูกลงโทษได้เช่นกันหากพาบุตรหลานเข้าร่วมด้วยการหลอกลวง บังคับ หรือข่มขู่
'เยนส์ ชพาห์น' รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนีซึ่งเปิดเผยตัวว่าเป็นคนหลากหลายทางเพศกล่าวว่า การรักเพศเดียวกันไม่ใช่ความป่วยไข้ ดังนั้นการบำบัดจึงถือเป็นเรื่องหลงผิด
รายงานระบุว่า วิธีการบำบัดแก้เพศวิถีอาจรวมถึงการสะกดจิตและช็อตด้วยไฟฟ้า แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าสิ่งที่เรียกว่า "การบำบัด" นี้เป็นความเข้าใจผิด เนื่องจากไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ ขณะที่มีงานวิจัยชี้ว่าการบำบัดแก้เพศวิถีสามารถนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและเพิ่มความเสี่ยงการฆ่าตัวตายได้ โดยรัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนีระบุว่า คนส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการบำบัดคือเยาวชนหรือคนหนุ่มสาวที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมโดยผู้อื่น
รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนีซึ่งเป็นสมาชิกพรรคคริสเตียนเดโมแครตของนายกรัฐมนตรี 'อังเกลา แมร์เคล' ได้ประกาศครั้งแรกว่ามีแผนจะห้ามการบำบัดแก้เพศวิถีเมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว ก่อนที่ร่างกฎหมายนี้จะถูกร่างเมื่อเดือนพ.ย.
อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์ว่ากฎหมายนี้ยังเบาเกินไป โดยพรรคกรีนซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเยอรมนีเรียกร้องให้เพิ่มเงื่อนไขเรื่องอายุเป็น 26 ปี ส่วนพรรคฝ่ายซ้าย (The Left Party) ต้องการให้เพิ่มอายุเป็น 27 ปี
ทั้งนี้ ข้อมูลจากมูลนิธิแมกนัส เฮิร์ชเฟลด์ ซึ่งเป็นองค์การเพื่อสิทธิมนุษยชนในกรุงเบอร์ลินชี้ว่า ในแต่ละปีมีประชาชนในเยอรมนีราวๆ 1,000 คน ที่เข้ารับการบำบัดแก้เพศวิถี ขณะเดียวกัน การปฏิบัตินี้ก็ถูกกำหนดให้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้วในสวิตเซอร์แลนด์ และบางพื้นที่ของออสเตรเลีย แคนาดาและสหรัฐอเมริกา