เมื่อเวลา 18.35 น. วันที่ 15 ก.พ. 2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญประจำปีครั้งที่สองเป็นพิเศษ ในญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา152 เวลา 18.35 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ลุกขึ้นชี้แจงเป็นครั้งที่ 2 ว่า สิ่งที่ สุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายมา เป็นข้อเสนอแนะที่รัฐบาลได้ทำอยู่แล้ว ในเรื่องของโรงไฟฟ้า ขอให้ไปดูรายละเอียดกติกาอีกครั้งว่า กำหนดไว้อย่างไร ก่อนถามกลับว่า ทำไมตนเองถึงไม่อยากให้โรงไฟฟ้าเกิดขึ้นได้ หากเกิดได้ก็ดีอยู่แล้ว ย้ำว่า สิ่งที่ สุทินพูดมา ได้ทำหมดแล้ว แต่ไม่เห็นเอง 

ส่วนเรื่องการปฏิรูปตำรวจ จากการที่มีตำรวจไปเกี่ยวพันกับการรับส่วย ยาเสพติด พนันออนไลน์ แต่งตั้งการดำรงตำแหน่งโดยใช้เส้นสาย ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปฏิรูปตำรวจอยู่แล้วตามที่ รัฐธรรมนูญกำหนด อีกทั้งสภาฯ ยังร่วมกันพิจารณาจนออกพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว 

ส่วนเรื่องคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามที่ได้อภิปรายมา ตนมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ผู้บังคับบัญชา จะต้องกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีที่สุด "คนเรามีทั้งดีและคนไม่ดี ไม่ใช่ว่าเลวไปทั้งหมด ตำรวจใช้ไม่ได้ ทหารก็แย่ ก็ลองกลับมาย้อนดูตัวเองบ้างแล้วกัน"

นายกรัฐมนตรี ยังขอให้เห็นใจตำรวจที่มีกำลังพลมากกว่า 200,000 นาย ทำงานดีๆ กันอีกเยอะ ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ ย้ำว่า หากเจอใคร พัวพัน ผลประโยชน์ให้แจ้งมา ถ้าสิ่งไหนไม่ชัดเจน ผ่านโซเชียลฯ ให้เรียกมาสอบทุกราย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และตนต้องรักษาศักดิ์ศรีของตำรวจดีๆ เอาไว้ด้วย ไม่ใช่ผิดไปทุกอย่าง ติมันง่าย ให้กำลังใจบ้างเป็น

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่น้ำท่วมอีกว่า ในสมัยปี 2554 น้ำท่วมมากกว่านี้ ซึ่งก็ถูกแก้ไขในปี 2557-2558 แต่ในปี 2565 ที่ผ่านมาซึ่งมีน้ำท่วมสูงเพราะฝนตกเกินมิลลิเมตร ดังนั้นก็อย่าพูดด้วยความรู้สึกอย่างเดียว อีกทั้งมีการบอกว่า การพัฒนา 8 ปี สูญเปล่านั้น ซึ่งสาเหตุที่มันไปไม่ค่อยได้เพราะเกิดปัญหาความขัดแย้งในทางการเมืองนักลงทุนไม่เชื่อมั่นก่อนปี 2557 มีเพียงแค่การกระจายงบประมาณย่อยๆ ไปสู่จังหวัดต่างๆซึ่งไม่ได้มีความเชื่อมโยงกัน

ในปี 2558-2562 มีการลงทุนและขยายตัวในภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น รวมถึงการคมนาคมที่มีเส้นทางรถไฟครอบคลุม 47 จังหวัด พร้อมย้ำว่าประเทศไทยไม่ได้ล้มเหลวเชิงเศรษฐกิจ เพราะได้รับรางวัลต่างๆในแง่ของการที่สามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ รวมถึงมีการลงทุนทางเทคโนโลยีค่อนข้างมาก และยัง มีการพัฒนาแรงงานให้ทำงานกับเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ได้ ซึ่งหลังจากนี้ตนจะให้โฆษกไปชี้แจงในสื่อออนไลน์ การที่มาบอกว่าทำไมนายกฯ ไม่ทำโน่นทำนี่ แล้วทำไมท่านไม่ทำเองตอนเป็นรัฐบาลนี่ไม่ได้ว่าใครแค่พูดลอยๆ 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชี้แจงกรณีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยระบุว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ใช่บัตรคนจน

"คุณชอบเรียกบัตรคนจน ไปดูถูกเขาได้ไง ให้เขามีรายได้ที่เพียงพออยู่รอด มีอาหารการกิน มีทั้งวันนี้ บัตรทองก็มี ทุกโรคบริการได้ ระบบประกันสุขภาพ แพทย์สมัยใหม่ ยกระดับ อสม. คัดกรองดาวน์ซินโดรม ลดภาระสถานพยาบาล" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ระหว่างนายกฯ ชี้แจงได้กล่าวว่า "ใช้เวลาไปเยอะพอสมควรแล้ว เมื่อย เพราะทำเยอะ เมื่อยพูดนะ เดี๋ยวผมจะเอาออกในทางโซเชียลฯ ออกไป ให้โฆษกเขาชี้แจงออกไป แล้วท่านลองเถียงมาแล้วกัน ว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง ท่านเสนอแต่ข้างหน้าจะทำ แต่ทำไมไม่ทำก่อนหน้านี้ แล้วท่านก็มาเคลมผมอยู่นี่ไม่ได้ ผมไม่ได้กล่าวถึงใครนะครับ ผมกล่าวลอยๆ เฉยๆ ขอขอบคุณท่านประธานครับ"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังนายกรัฐมนตรีชี้แจงเสร็จสิ้น จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิประท้วงโดยเรียก พล.อ.ประยุทธ์ ที่เดินออกไปจากห้องประชุมทันทีหลังชี้แจงเสร็จสิ้น โดย จิรายุ กล่าวว่า จะบอกท่านนายกฯ ว่า ทางบ้านโทรมาว่าท่านดูหงุดหงิด อยากให้ชี้แจงทีละเรื่อง ทีละประเด็น ตนไม่อยากจะประท้วง แต่อยากให้นายกฯ อธิบายว่าเคยทำอะไรมาแล้วบ้างมากกว่า

ด้าน จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวขอบคุณนายกฯ ที่ตอบชี้แจง แต่เมื่อนายกฯ ถามย้อนกลับว่าฝ่ายค้านทำอะไรบ้าง ตนขออธิบายว่า ฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบ หน้าที่การทำเป็นของท่าน และเมื่อฝ่ายค้านนำปัญหามาอภิปราย แต่นายกฯ ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ก็สะท้อนว่านายกฯ ยังไม่ได้เข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างถ่องแท้พรรคร่วมฝ่ายค้านยังขอยอมรับว่า อาจมีบางครั้งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านพูดถึงนโยบายของพรรค ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพราะนายกฯ ได้เริ่มศึกษานโยบายของพรรคร่วมฝ่ายค้านบ้างแล้ว แต่ขอให้อย่าเพิ่งฟันธงว่าจะทำได้หรือไม่ หรือต้องใช้งบประมาณเท่าใด

โดย จุลพันธ์ ยังยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้ใช้คำว่า ‘บัตรคนจน’ เพราะเห็นว่าท่านเปลี่ยนชื่อบัตรเป็น ‘บัตรลุงตู่’ จึงเข้าใจไปว่าสามารถเปลี่ยนชื่อได้ แต่เมื่อนายกฯ ชี้แจงเช่นนี้ ต่อไปพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะใช้คำว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ตรงกัน

จากนั้น อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งประท้วงการทำหน้าที่ของประธานฯ ว่า ที่นายกฯ บอกว่าจะไปตอบชี้แจงในโลกโซเชียล ซึ่งมักจะปิดช่องทางแสดงความเห็นเสมอ แล้วทำไมประธานฯ จึงไม่บังคับให้นายกฯ ตอบชี้แจงในสภาฯ โดย ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ประธานการประชุมขณะนั้น ตอบกลับว่า การจะชี้แจงที่ไหนก็เป็นสิทธิของคนนั้น