ไม่พบผลการค้นหา
'เสรีพิศุทธ์' บอก 'ก้าวไกล' ต้องเสียสละโดดลงเรือ พูดเพราะความรัก ยกปี 2562 'เพื่อไทย' ชนะได้อันดับ 1 ก็ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล เตรียมยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ปลดล็อกห้าม 'พิธา' เสนอชื่อซ้ำ

วันที่ 21 ก.ค. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวภายหลังแถลงข่าวร่วมกับ 8 พรรค ถึงกรณีการลดเพดานการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล โดยระบุว่า การขอแก้ไขมาตรา 112 เป็นเรื่องปกติ ไม่ได้เป็นความผิดอะไรเลย ตนเคยอภิปรายในสภาฯ ว่า การแก้ไขมาตรา 112 มีมาตั้งแต่ ปี 2499 และเกิดอีกครั้งในปี ปี 2519 

พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวต่อในกรณีการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 19 ก.ค. วาระการตีความข้อบังคับรัฐสภาที่ 41 ว่าการเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สามารถเสนอซ้ำได้หรือไม่นั้น หากไปตรวจสอบจะพบว่า ตนไม่ได้ไปลงคะแนน เพราะตนเห็นว่าผิดรัฐธรรมนูญ ถ้าตนไปร่วมลงคะแนนด้วย เท่ากับตนไม่ยอมรับเขา ตนจึงไม่ลง แต่ตนก็ไม่ได้ไปไหน 

ส่วนการนำเรื่องนี้ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหาย หรือเกี่ยวข้องหรือไม่ และถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ หากไม่ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ไม่รับคำร้อง หากผู้ตรวจการแผ่นดินรับเขาก็ผิด 

พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 26 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ตนจะดำเนินการนำเรื่องนี้ไปยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเอง และขอให้สมาชิกพรรคต่างๆ ช่วยลงชื่อด้วย เพื่อปลดล็อกผลมติการประชุมรัฐสภาในครั้งที่แล้วให้ได้ เพราะเมื่อยังไม่ได้ปลดล็อก จึงถูกบังคับใช้มาเรื่อยๆ จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี หากล็อกยังไม่ถูกปลดก็จะถูกบีบอยู่เช่นนี้ 

ส่วนวิธีการจะทำได้อย่างไรนั้น พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ ได้ยกกรณีเสนอชื่อของ พิธา ในครั้งที่ 2 ขึ้นมาว่า สมมติกรณีนี้ถูกปลดล็อกแล้ว เท่ากับว่าเสนอได้ แต่มติเช่นนั้น ทำให้ตนกลายเป็นผู้เสียหาย ตนจึงฟ้องผู้ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 (1) ป.ป.ช. มีหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการสืบสวน และดำเนินคดีกับพรรคการเมืองที่กระทำการทุจริต ประพฤติมิชอบ และกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย โดยตนจะดำเนินการพร้อมเรียกร้องค่าเสียหาย

“จะเป็นนายกรัฐมนตรี ดันไม่ให้เป็น ฟ้องไปสักพันล้าน พอหรือเปล่าก็ไม่รู้”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ทางฝ่ายส.ว.เขาจิ้มมาถ้ามีพรรคก้าวไกลไม่เอาด้วย พรรภูมิใจไทย พรคชาติไทยบอกว่ามีก้าวไกลไม่เอาด้วย ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลอยู่ด้วยกันมาตลอด การจะตัดเยื่อใยเลยก็คงไม่ถูก ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องรักษาพรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกลควรสนับสนุนพรรคเพื่อไทย ควรจะเป็นเรื่องพรรคก้าวไกลจะตัดสินใจจะทำอย่างไร 

"ถ้าเสียสละ ผมพูดในห้องประชุม 8 พรรค เรืออยู่กลางทะเล เรือมันล่ม มีคนแก่ ผู้หญิง มีเด็กต่างๆ เราคนหนุ่มจะขึ้นเรือเหรอ ต้องให้เด็ก คนแก่ ผู้หญิงขึ้นไปก่อน ไม่ใช่หนุ่มกระโดดขึ้นเรือก่อน ดังนั้นต้องมีผู้เสียสละให้ประชาธิปไตยไปได้ ถ้าไม่เสียสละไปไม่ได้" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ 

ถามว่าเสียสละคืออะไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นแนวทางที่ 3 ที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ตัดพรรคก้าวไกลออก 8 พรรค ถ้าตัดพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยจะขาด 151 เสียง แต่พรรคก้าวไกลยังอยู่รัฐบาลเพียงแต่ไม่แสดงตัว ถ้าแสดงตัวก็จะไม่เอา

ถึงประเด็นที่เคยกล่าวว่า "หากมีการเสียสละก็พอไปต่อได้ เด็กหนุ่มต้องเสียสละลงจากเรือก่อน" หมายถึงอะไร ให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านหรือ

โดย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า ก็ไปคิดเอา ใครควรจะเสียสละ เพราะตนเสียสละ เพื่อไทยก็ไม่ได้ประโยชน์ เพราะตนมีเสียงเดียว เดี๋ยวขอให้เพื่อไทยดำเนินการดีกว่า อย่าถามอะไรมาก  

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้ง ก็ต้องเสียสละหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คุณไปดูเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ใครได้คะแนนมากที่สุด พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ แต่พรรคพลังประชารัฐ ก็ยังชิงจัดตั้งรัฐบาลเลย คราวนี้พรรคก้าวไกลได้ที่หนึ่ง พรรคเพื่อไทยได้ที่สอง พรรคเพื่อไทย ยังไม่แย่งพรรคก้าวไกลจัดเลย เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจพรรคเพื่อไทยด้วย เมื่อเขามีโอกาสต้องช่วยเขา

เมื่อถามว่าจะไม่ทำให้หลักการบิดเบี้ยวหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ย้อนถามว่า คุณต้องการอะไร ต้องการบริหารประเทศใช่หรือไม่ ครั้งที่แล้วคุณประยุทธ์ อยากเป็นนายกรัฐมนตรี ยังยกกระทรวงสำคัญให้ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์เลย 

เมื่อถามว่าพูดแบบนี้ไม่กลัวพรรคก้าวไกลโกรธใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "ไม่กลัวหรอก พูดความจริง และพูดด้วยความรัก"

ถามต่อไปว่า พรรคก้าวไกลต้องไม่แตะ มาตรา 112 เลยใช่หรือไม่ ถึงจะอยู่ร่วม 8 พรรคได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ กล่าวว่า แค่บอกไม่แตะมันก็ไม่ได้ เพราะมันติดตราตรึงใจไปแล้ว มันไปไม่ได้หรอก 

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลต้องไม่แตะ มาตรา 112 เลยใช่หรือไม่ ถึงจะอยู่ร่วม 8 พรรคได้พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า แค่บอกไม่แตะมันก็ไม่ได้ เพราะมันติดตราตรึงใจไปแล้ว มันไปไม่ได้หรอก 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำ แสดงว่า แนวทางที่จะออกมาเป็นแนวทางที่ 3 ใช่หรือไม่ คือไม่มีพรรคก้าวไกล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า "ไม่ใช่ไม่มี มีแต่ไม่ต้องไปโชว์ "

เมื่อถามต่อไปว่า มีแต่ไม่ต้องไปโชว์คือยังไง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ บอกว่า "ระดับผู้สื่อข่าวไม่ต้องบอกก็คิดเองได้"