“ถ้าฉันเป็นนักพนัน ฉันกล้าฟันเลยว่าทรัมป์จะลงอีกครั้ง” คลินตันให้สัมภาษณ์กับ MSNBC เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (30 ธ.ค.) แสดงความมั่นใจว่า ทรัมป์จะลงรับสมัครเพื่อท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นครั้งที่สองอย่างแน่นอน “ถ้าเขาไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง และเขายังจะคงทำอย่างนั้นอีกครั้ง ฉันคิดว่ามันสามารถเป็นจุดจบประชาธิปไตยของเราได้”
คลินตันเตือนว่า การได้ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อีกครั้ง หากประธานาธิบดีคนก่อนคว้าชัยการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ได้ จะทำให้สหรัฐฯ พบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ และยุคสมัยของทรัมป์เมื่อปี 2017-2020 ที่ผ่านมา จะเป็นเพียงแค่สนามเด็กเล่นเท่านั้น
“นี่คือจุดแตกหัก” คลินตันระบุ “ถ้าหากเขาหรือใครสักคนในตระกูลของเขาได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง… คุณจะจำภาพประเทศของตัวเองไม่ได้อีกต่อไป” ทั้งนี้ มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงว่าในปี 2024 ทรัมป์อาจประกาศลงท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง เนื่องจากเขายังคงไม่ได้ลดบทบาทตัวเองลง ถึงแม้จะพ้นตำแหน่งประธานาธิบดีมาแล้วร่วมปี
นอกจากนี้ คลินตันยังเปิดเผยอีกว่า การแพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2016 ของเธอต่อทรัมป์ ทำให้เธอ “รู้สึกแย่มากที่ไม่สามารถหยุดเขาและคนรอบตัวเขาได้” ทั้งนี้ คลินตันวิพากษ์วิจารณ์ระบบคณะผู้เลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่ถึงแม้ว่าเธอจะได้คะแนนเลือกตั้งจากประชาชนมากที่สุด แต่เมื่อคิดสัดส่วนคะแนนคณะผู้เลือกตั้งจากแต่ละรัฐแล้ว กลับทำให้เธอไม่มีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมากพอที่จะเลือกให้เธอเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรก
คลินตันยังคงวิจารณ์ว่า กรณีอื้อฉาวการส่งเอกสารสืบสวนสอบสวนผ่านอีเมล์ส่วนตัวของเธอในช่วงเดือนตุลาคมที่ถูก “นำออกมาแฉโดย จิม โคมี” อดีตผู้อำนวยการ FBI ยังอาจจะเป็นอีกส่วนที่ทำให้คะแนนเลือกตั้งของชาวสหรัฐฯ บางส่วนหันไปหย่อนบัตรให้ทรัมป์แทน อย่างไรก็ดี คลินตันยอมรับว่า ทรัมป์เองก็ได้รับการสนับสนุนจากชาวสหรัฐฯ บางส่วนด้วยเช่นกัน
“ทุกคนสามารถเห็นได้ว่าเขาเป็นผู้นำประเภทไหน แต่มันชัดเจนมากว่ามีคนจำนวนหนึ่งซึ่งชอบในสิ่งที่ตัวเองเห็น ต่างจากสิ่งที่ฉันเห็นว่าเป็นภยันตรายต่อประเทศของเรา” คลินตันระบุเพื่อย้ำเตือนว่าอย่าประมาททรัมป์ในการเลือกตั้งปี 2024 “พวกเขาออกไปและลงคะแนนให้เขา และเขาพยายามจัดตั้งอีกครั้งเพื่อตัวเอง เพื่อที่มันจะได้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”
ที่มา: