ไม่พบผลการค้นหา
'วัฒนา เมืองสุข' พร้อมยอมรับผลคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ในคดีกล่าวหาทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร ย้ำมั่นใจในความบริสุทธิ์ เชื่อผลการตัดสินเป็นไปตามพยานหลักฐาน

วัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ตนแปลกใจที่ผู้สื่อข่าวหลายสำนักโทรศัพท์มาถามว่าจะไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีกล่าวหาทุจริตดำเนินโครงการบ้านเอื้ออาทร หมายเลขดำ อม.42/2561 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้องตนกับพวกรวม 14 ราย เป็นจำเลย หรือไม่ ตนยอมรับผลคำพิพากษาที่จะออกมาในทางร้ายได้หรือไม่ เสมือนคาดเดาคำพิพากษาได้ล่วงหน้า

คดีนี้ ตนถูกกล่าวหาว่า (1) ใช้อำนาจในตำแหน่งรัฐมนตรีเข้าแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการและผู้ว่าการการเคหะเพื่อออกประกาศฉบับลงวันที่ 14 ต.ค. 2548 ให้เป็นไปตามความต้องการของตน แต่ผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุไว้อย่างขัดเจนว่าการออกประกาศดังกล่าวเป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหาความล่าช้าของโครงการ และดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ตามรายงานของ ป.ป.ช. เอกสารหมาย จ. 251 หน้า 46

(2) ผลการออกประกาศดังกล่าวทำให้การเคหะเสียหายต้องรับซื้อโครงการในราคาที่แพงขึ้น แต่ผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุว่าการออกประกาศดังกล่าวเป็นประโยชน์และไม่ทำให้การเคหะเสียประโยชน์ รวมทั้งไม่ทำให้ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น ตามรายงานของ ป.ป.ช. เอกสารหมาย จ. 251 หน้า 47 และ

(3) ตนเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใดจากผู้ประกอบการเพื่อตอบแทนการอนุมัติหน่วยก่อสร้างและการรับซื้อโครงการจากผู้ประกอบการ แต่ผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุว่าผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ ทุนจดทะเบียน และหลักประกันถูกต้องได้รับอนุมัติจำนวนหน่วยตามคำขอทุกราย นอกจากนี้อัยการสูงสุดยังมีความเห็นว่า พฤติกรรมของคดีคือ ตนใช้อำนาจครอบงำในลักษณะเป็นการใช้อำนาจกำหนดนโยบายต่างๆ แต่ไม่ปรากฏพฤติการณ์ที่เชื่อมโยงว่าผมใช้อำนาจไปเรียกรับเงิน ตามรายงาน ป.ป.ช. เอกสารหมาย จ. 251 หน้า 46 และตามบันทึกการประชุมระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช. เอกสารหมาย จ. 354 หน้า 940

วัฒนา ระบุว่า ผลการไต่สวนยังปรากฏว่าเจ้าหน้าที่การเคหะทุกคนปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ การอนุมัติหน่วยก่อสร้าง การรับซื้อโครงการเป็นไปอย่างถูกต้องทุกโครงการ ไม่มีการเอื้อประโยชน์ใดๆ แก่ผู้ประกอบการ และไม่มีความเสียหายใดๆ เกิดขึ้นกับการเคหะ ปรากฏตามเอกสารที่ถ่ายมาจากต้นฉบับที่ ตนโพสต์มาให้ดูเป็นหลักฐาน ในคดีอาญาภาระการพิสูจน์เป็นของโจทก์ โจทก์จะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นจนปราศจากข้อสงสัยว่าจำเลยได้กระทำความผิดศาลจึงจะพิพากษาลงโทษจำเลย 

"หลักฐานที่ผมโพสต์มาให้ดูคงเป็นคำตอบว่าเพราะอะไรผมจึงมีความมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง ผมสู้คดีตามครรลองและไปศาลทุกนัดโดยไม่เคยขอเลื่อนคดี ผมเชื่อว่าการพิจารณาพิพากษาคดีอาญาจะต้องเป็นไปตามพยานหลักฐาน ไม่ใช่เป็นไปตามความเชื่อหรือเป็นไปตามกระแสทางการเมือง พรุ่งนี้เวลา 11.00 นาฬิกา เจอผมได้ที่ศาลฎีกาฯ" วัฒนา ระบุ