จากรณีวันนี้ (8 ม.ค. 2565) รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ในโอกาสวันเด็กแห่งชาติว่า ไม่เอาคำขวัญวันเด็กและควรคิดเพื่อเด็กคือการส่งมอบอนาคตที่ดีให้เขา
ล่าสุด เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รังสิมันต์รู้ดีว่าการให้คำขวัญวันเด็กของนายกฯ ถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติทุกปีที่ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ทำดี ปฏิบัติดี ซึ่งก็ไม่ใช่แค่นายกฯ จะให้คำขวัญวันเด็กอย่างเดียว ยืนยันตลอดการบริหารงานนายกฯ ได้ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน รับฟังความคิดเห็นทุกกลุ่มอยู่แล้ว และมีหลายนโยบายที่ออกมาเพื่อเด็กและเยาวชน เพราะถือว่าเป็นอนาคตของชาติ
“ขออย่าเอาเรื่องของเด็กและเยาวชนมาเป็นประเด็นทางการเมือง อย่าถือโอกาสเช่นนี้นำมากล่าวหา โจมตีนายกฯ ขอให้วันนี้เป็นวันของเด็กและเยาวชนโดยแท้จริง ให้เป็นวันที่เด็กและเยาวชนมีความสุข นอกจากนี้ตนเองยืนยันว่านายกฯจะให้อนาคตที่ดีกับเด็กและเยาวชนได้" เสกสกลกล่าว
เสกสกลกล่าวอีกว่า แตกต่างจากรังสิมันต์และพรรคก้าวไกล ที่ไม่เคยคิดจะทำอะไรเพื่อเด็กและเยาวชนหรือให้อนาคตที่ดีแก่เขาได้ เพราะส่วนตัวทั้งรังสิมันต์และพรรคก้าวไกลก็เอาตัวไม่รอด ไม่เคยคิดดี ทำดี ยังออกมาเคลื่อนไหวกับม็อบสร้างความเดือดร้อนให้กับประเทศและประชาชนไม่หยุด และยังจาบจ้วงก้าวล่วงสถาบัน ดังนั้นหากตัวเองไม่ดีพอก็ขออย่าตำหนิ หรือกล่าวโจมตีนายกฯ ไปทำตัวให้เป็นคนดีก่อนค่อยมาสอนคนอื่น
"ผมเห็นนักการเมืองประเภทมือไม่พายแต่ เอาเท้าราน้ำ เช่นรังสิมันต์ แล้วน่าเศร้าใจ จะเป็นนักการเมืองที่ดี เป็นตัวอย่างให้กับเด็กและเยาวชนไม่ได้เลย มีแต่จะทำให้เสียภาพพจน์ที่ดีในสายตาเด็กเยาวชนจนซึ่งเป็นกำลังสำคัญของชาติหมดสิ้นหวังอนาคตกับนักการเมืองเหล่านี้" เสกสกลกล่าว
ทั้งนี้ ข้อความที่รังสิมันต์โพสต์คือ สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เข้าใจมาตลอด แต่ก็เห็นได้ทุกปีที่ผ่านมา คือวันเสาร์ที่2ของเดือน สิ่งที่ดูจะเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนที่สุดคือ “คำขวัญวันเด็ก” และ “เด็กๆจะได้เข้าไปชมอาวุธของกองทัพ”
โดยเฉพาะในวันเด็กที่อยู่ในสมัยของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ทุกปีมีคำขวัญออกมาราวกับว่าให้ความสำคัญกับคนรุ่นใหม่ แต่ในขณะเดียวกันกลับยัดเยียดคดีความ หรือจับกุมอนาคตของชาติที่มาชุมนุมเรียกร้องเพื่ออนาคตของตัวเองเป็นว่าเล่นไม่รู้กี่คดีต่อคดี
ในขณะที่อนาคตของเยาวชนดูมืดมน สิทธิในเนื้อตัวร่างกาย สิทธิในการมีชีวิตที่ดี สวัสดิภาพในการเดินทาง โอกาสทางอาชีพ ดูแล้วไม่เห็นทางจะเป็นไปได้ จนกระทั่งเกิดม็อบนักเรียนและม็อบเยาวชนที่มาเรียกร้องอะไรของเขาตลอดปีที่ผ่านมา แม้กระทั่งเกิดการอยากย้ายประเทศกันเป็นล่ำเป็นสัน สะท้อนความสิ้นหวังของประเทศออกมาอย่างเป็นรูปธรรม
น่าเศร้าที่สุดท้ายนายกรัฐมนตรีกลับคิดถึงพวกเขาเพียงแต่เวลาที่อยากให้คำขวัญวันเด็ก
ภาพจำของคนแบบพล.อ.ประยุทธ์ มองเห็นเด็กและเยาวชนที่ดีคือคนที่เชื่อฟัง ไม่หือไม่อือ แต่งกายเรียบร้อยตามระเบียบ และคาดหวังว่าเด็กทุกคนต้องเป็นแบบนั้น แต่กลับไม่เคยคิดจะส่งมอบอนาคตที่เป็นรูปธรรมใดๆให้พวกเขาเลย
ในวันเด็กปีนี้ ผมในฐานะผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล อยากจะขอส่งเสียงถึงเยาวชนทุกคน ว่าสิทธิในการมีชีวิตที่ดี มีอนาคตที่มีความหวัง คือสิทธิอันชอบธรรมของทุกคน และนั่นเป็นหน้าที่ของผู้บริหารประเทศที่จะต้องรักษาสิทธิ์นั้นของพวกท่านไว้
สิทธิในการมีอนาคตที่ดี คือสิ่งที่เด็กๆทุกคนคู่ควรได้รับจากนายกรัฐมนตรี มากกว่าคำขวัญวันเด็ก ที่ผ่านไปถึงพรุ่งนี้ก็ไม่มีความหมายใดๆอีกต่อไป สุขสันต์วันเด็กครับ