ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อฟังการไต่สวนว่าศาลจะมีคำสั่งให้ปิดกั้น-ลบเนื้อหา กรณีไลฟ์การบริหารจัดการวัคซีนโควิด เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ส่งตัวแทนเข้าขอให้ศาลลบหรือปิดกั้นเนื้อหาดังกล่าว และธนาธรได้ส่งทนายความยื่นขอคัดค้านไว้แล้ว ดังนั้น ศาลจึงนัดไต่สวนวันนี้ (4 ก.พ. 2564)
ธนาธร ยืนยันว่า การตรวจสอบการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนของรัฐบาล สามารถทำได้ จึงยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามต้องรอดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร ตนไม่ขอก้าวล่วง
ส่วนที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตนในคดีอาญามาตรา 112 จากกรณีเดียวกันนี้ ธนาธร มองว่า เป็นเรื่องของกลุ่มไทยภักดี แต่ยืนยันว่า การแสดงความคิดเห็นโดยเสรีและสุจริตสามารถกระทำได้ ตามหลักสิทธิเสรีภาพและหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่ต้องมี free speech
พร้อมย้ำถึงตัวบทกฎหมายและการบังคับใช้ของกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยเฉพาะบทกำหนดโทษที่สูงเกินไป ดังนั้น ตนและประชาชนจึงเห็นว่า ต้องแก้ไขกฎหมายมาตรานี้
ล่าสุด ศาลอาญาเลื่อนคำสั่งปิดกั้นไลฟ์สดการบริหารจัดการวัคซีนโควิด ของธนาธร ไปเป็นวันที่ 8 ก.พ. หลังยื่นคัดค้านที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ขออำนาจศาล ลบหรือปิดกั้นเนื้อหาการไลฟ์สดดังกล่าว
ธนาธร กล่าวว่า จะยังคงทำหน้าที่ของตนเองต่อไป และไม่ได้มีความวิตกกังวลอะไร โดยได้ชี้แจงเหตุผล และพยานหลักฐานทั้งหมดต่อศาลแล้ว ธนาธร ยังย้ำถึงความจำเป็นต้องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่นอกจากมีโทษรุนแรงเกินไปแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ธนาธร เรียกร้องให้ สังคมไทยมีวุฒิภาวะ และยอมรับปัญหาว่ามีอยู่จริงหากไม่แก้ไข ก็จะส่งต่อปัญหานี้ไปให้คนรุ่นหลัง ดังนั้นต้องยอมรับและทำความเข้าใจกับปัญหาเสียก่อน โดยเฉพาะการผลักดันเคลื่อนไหวเรื่องบทบาทและสถานะของสถาบันฯที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัย เพื่อนำไปสู่การปฏิรูป ที่จะช่วยให้สถาบันฯ มั่นคงยิ่งขึ้น หากไม่มีการปรับตัว จะไม่สามารถสู้กับกาลเวลาได้ ธนาธร ย้ำว่า ทั้งหมดทั้งมวลตนมีเจตนาอันบริสุทธิ์ที่หวังจะเห็นสถาบันฯอยู่คงคู่กับชาวไทยอย่างยั่งยืน
สำหรับกรณีที่กลุ่มจารีตนิยมเตรียมจะดำเนินคดีกับตนและพวกนั้น ส่วนตัวอยากให้มองถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและยอมรับ หากเลือกที่จะมองข้ามก็ไม่สามารถขจัดให้หมดสิ้นไปได้ แต่จะส่งต่อปัญหาให้คนรุ่นหลัง จึงอยากถามกลับว่า แบบนี้เรียกว่ามีความรับผิดชอบต่อคนรุ่นหลังมากแค่ไหน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :