มิเชลเรียกมติในการมอบสถานะผู้ขอเข้าร่วมสหภาพยุโรป ให้กับทางยูเครนและมอลโดวาว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” หลังจากยูเครนยื่นขอสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปในช่วงหนึ่งวัน หลังจากรัสเซียเริ่มเปิดฉากเข้ารุกรานประเทศของตน ในขณะที่ทางสหภาพพยุโรปเองพยายามเร่งการดำเนินการพิจารณาสถานะการขอเข้าร่วมสหภาพยุโรปของยูเครนอย่างเร่งด่วน
“นี่คือช่วงเวลาอันเป็นเอกลักษณ์และเป็นประวัติศาสตร์ ของความสัมพันธ์ยูเครนและสหภาพยุโรป” โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนทวีตข้อความ “อนาคตของยูเครนอยู่ภายในสหภาพยุโรป” ทั้งนี้ การมอบสถานะผู้ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น และอาจใช้เวลาหลายปีในกระบวนการเข้าร่วมเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ และผลสำเร็จของความพยายามดังกล่าวไม่มีใครยืนยันได้ว่าจะปรากฏออกมาในรูปแบบใด
ทั้งนี้ ยูเครนจะต้องทำการปฏิรูปประเทศตนเอง เพื่อให้กระบวนการเจรจาเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปสามารถเริ่มขึ้นได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งหมายรวมถึงการปฏิรูประบบนิติธรรมของประเทศ ไปจนถึงการรับมือกับปัญหาคอร์รัปชันที่สั่งสมมานานในยูเครน เช่นเดียวกันกับมอลโดวา ในขณะที่จอร์เจียซึ่งเป็นอดีตประเทศสมาชิกสหภาพโซเวียตกำลังอยู่ในการพิจารณามอบสถานะผู้ขอเข้าร่วมสหภาพยุโรปอยู่ในตอนนี้
ในอีกด้านหนึ่ง รัสเซียไม่ได้แสดงท่าทีในการต่อต้านการขอเข้าร่วมสหภาพยุโรปของยูเครน โดย วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียอ้างว่า ตน “ไม่มีอะไรจะค้าน” ในการขอเข้าร่วมการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน พร้อมกล่าวย้ำว่า “มันเป็นการตัดสินใจอันเป็นอธิปไตยของพวกเขา (ยูเครน) ที่จะเข้าร่วมสหภาพเศรษฐกิจหรือไม่”
อย่างไรก็ดี ยูเครนและสหภาพยุโรปได้สะท้อนภาพไปยังรัสเซียแล้วว่า พวกตนไม่ยอมรับระเบียบชุดใหม่ที่รัสเซียพยายามจะสถาปนาขึ้นในยุโรป ขณะที่กระบวนการรับเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อยูเครนจะยังคงใช้เวลานานอีกหลายปี และยูเครนจะต้องเผชิญหน้ากับการทำสงครามต่อต้านการรุกรานโดยรัสเซียต่อไป โดยมีนักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า สงครามยูเครนอาจยืดเยื้อไปเป็นเวลาอีกนานนับปี
ที่มา: