“คืนยุติ-ธรรม” ภาพยนตร์แนวดราม่าทริลเลอร์ ผลงานเรื่องล่าสุดจาก “เอ็ม พิคเจอร์ส” โดยมีโปรดิวเซอร์ฝีมือเก๋าอย่าง อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร นั่งแท่นโปรดิวเซอร์ และผู้กำกับภาพยนตร์โดย โน้ต-กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์ ที่นำเรื่องของ “ความยุติธรรม” มาตีแผ่ในมุมมองที่เป็น “รูปธรรม” เพื่อให้ผู้ชมมองภาพของคำว่า “ยุติธรรม” ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งได้นักแสดงมากฝีมือ "ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล" มารับบทนำดำเนินเรื่องราวการทวงความยุติธรรม พร้อมนักแสดงมืออาชีพอย่าง "ปูเป้-รามาวดี นาคฉัตรีย์" ที่มาประเดิมงานจอเงินเป็นครั้งแรก และการพลิกบทบาทครั้งสำคัญ ของ "ซูโม่กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ กับการเล่นเป็นตัวร้ายในรอบหลายปี รวมทั้ง "แพร-ณัฎฐธิดา ดำรงวิเศษพาณิชย์" "อาร์ต-ศิลป์ รุจิรวนิช" และ กิก-ดนัย จารุจินดา มาถ่ายทอดเรื่องราวในครั้งนี้

ทีมข่าววอยซ์ออนไลน์ ได้พูดคุยกับ ผู้กำกับ โน้ต-กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์ ถึงมุมมองการทำหนังเรื่องนี้ ที่ขอหยิบเรื่องความยุติธรรม สิ่งที่สังคม มักจะถามหาและพูดถึงอยู่เสมอ ถ่ายทอดสู่ภาพยนตร์

“มันเป็นเรื่องใกล้ตัว สำหรับคนทุกคนที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นตัวเราเอง หรือ ตามข่าว ที่เราจะพบว่าในสังคมบางทีมันก็มีสิ่งที่ตัวเราเอง อาจจะรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ไม่ยุติธรรม ถ้าเรามองในส่วนของคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง สายตาที่เราตัดสินกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันอาจจะตัดสินไปตามสิ่งที่เป็นจริงๆ แล้วถ้าเรามีส่วนได้ส่วนเสียในความขัดแย้งนั่นล่ะ เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่อยากทำหนัง เสนอมุมมองทัศนคติ เรื่องความถูกต้อง ทั้งจากมุมคนนอก และคนใน ที่ประสบพบเจอ ความไม่ยุติธรรม

ความยุติธรรม สำหรับผม จริงๆ ตอบยาก ถ้าเราว่าตามคำนิยามเป๊ะๆ มันต้องไม่มีอคติมาเกี่ยวข้องในการตัดสินถูกผิด แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง มันมีอคติเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมว่าเป็นทุกคนนะ เราทุกคนไม่ใช่เปาบุ้นจิ้น ที่จะตัดสินญาติตัวเองได้ด้วยความถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมว่าคนธรรมดา มันก็ต้องถูกครอบงำด้วยความรู้สึกส่วนตัว พยายามหาเหตุผลมารองรับการตัดสินใจว่าถูกต้องแล้วนะ”

• โน้ต-กัณฑ์ปวิตร ภูวดลวิศิษฏ์ / ผู้กำกับภาพยนตร์

มีหลายคนตั้งคำถามถึงเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ ว่าได้นำเรื่องจริงจากคดีดังมาอ้างอิงหรือไม่ โน้ต-กัณฑ์ปวิตร เผยว่า เขานำมาจากสิ่งรอบตัว โดยเฉพาะเรื่องราวในโซเชียลมีเดีย ที่ผู้คนมักตั้งศาลโซเชียลตัดสินผู้อื่น

“คำตัดสินในโซเชียล เป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจในหนังเรื่องนะ มันจะมีกระทู้ที่ใช้แต่อารมณ์ มีแต่คำด่า ซึ่งผมมองแล้ว บางทีคนเรามันขาดสติ มันก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราอยากนำเสนอในหนัง ว่าเราอยากตั้งคำถามไปยังคนดู คุณเองมีความยุติธรรม มากน้อยขนาดไหน ในสังคมบ้านเรา มีคนถามว่า หนังเรื่องนี้เอามาจากคดีดังไหม ผมเขียนเรื่องนี้มาจากความรู้สึก คุกมีไว้ขังคนจน คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด ซึ่งมันพบเห็นได้ทั่วไป จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไทย ซึ่งผมว่ามันน่าเป็นห่วงนะ ที่เรามองมันเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันไม่ปกตินะ

ในภาพยนตร์ได้แบ่งตัวแสดง แทนความยุติธรรม และไม่ยุติธรรม โดย ก็อต จิรายุ  จะเป็นตัวแทน คนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม และเลือกวิธีแก้ปัญหาด้วยการใช้ความรุนแรง จนถึงจุดจุดหนึ่งที่ทนไม่ไหว ต้องทำอะไรสักอย่าง ซูโม่กิ๊ก ในบทอาจจะดูว่าเขาคือตัวแทนความชั่วร้าย แต่สิ่งที่ผมตั้งใจคือ คนที่เรารู้สึกว่าเลวที่สุด บางทีสิ่งที่เขาทำลงไป เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก มันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ ทุกคนผิดพลาดกัได้ แต่ทีนี้เราจะทำยังไงกับสิ่งที่ทำลงไปแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะแก้ไขยังไง

ปูเป้ คือเหมือนขั้วตรงข้ามกับ มานพ บทที่ ก็อต แสดง คือถ้า มานพ เหมือนเป็นด้านความขัดแย้ง ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา ตัวกานดา รับบทโดย ปูเป้ จะเป็ นเหมือนคนนอกที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และตัดสินจากข้อมุล ความรู้ที่เขามี มันไม่ถูกต้องหรือเปล่า ที่คุณมาใช้ความรุนแรง

สิ่งที่ผู้กำกับ หวังจากหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่รายได้ หรือถ้วยรางวัล หากแต่อยากให้ผู้ชม ได้ดูหนังให้จบ และตั้งคำถามกับตัวเอง

“อยากให้ดูหนังจบ แล้วตั้งคำถามกับตัวเอง ว่าเราเป็นคนดีอย่างที่คิดหรือเปล่า เพราะทุกคนจะมีภาพตัวเองในความคิด ว่าฉันเป็นคนดีอย่างโน้นอย่างนี้ จนกระทั่ง เมื่อคุณมาถึงบททดสอบ จะตัดสินว่าคุณเป็นคนยังไง สิ่งที่อยากให้คนดูได้ ลองตั้งคำถาม และมีสติขึ้น

สำหรับ “คืนยุติ-ธรรม” เล่าถึง “มานพ” (ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล) ชายหนุ่มผู้มีอนาคตอันสดใสทั้งเรื่องการงานและความรัก และกำลังจะแต่งงานกับ “ดวงใจ”  แต่อนาคตของเขากลับต้องพังทลาย เมื่อ ดวงใจ โดนเจ้านายที่ชื่อ “สิทธิชน” (ซูโม่กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ) ข่มขืน ทำให้มานพโกรธแค้นจึงไปทำร้ายสิทธิชนที่บริษัท นำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเมื่อสิทธิชนพลั้งมือยิงดวงใจตาย ส่วนมานพได้รับบาดเจ็บสาหัส และตื่นขึ้นมาพร้อมตกเป็นผู้เป็นต้องหาในคดีฆ่าภรรยาตัวเองจนเขาต้องติดคุก หลังจากออกจากคุกเขาได้พบกับ “กานดา” (ปูเป้-รามาวดี นาคฉัตรีย์) จิตแพทย์สาวที่อาสาเข้ามาเยียวยาอาการป่วยทางจิตใจของเขา แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปเธอกลับค้นพบ มานพ อีกคนที่เธอไม่รู้จัก ที่ลุกขึ้นมาตั้งตนเป็นศาลเตี้ยทวงความยุติธรรมแก่สังคมด้วยความรุนแรงในทุกค่ำคืน  ยิ่งค่ำคืนล่วงเลยความรุนแรงก็ทวีความโหดเหี้ยมจนกลายเป็นการนองเลือด และนำไปสู่ความจริงปริศนาที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด โดยจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 27 กุมภาพันธ์ นี้