นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยมีมติไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรฯ หรือ กฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงของการรับฟังความคิดเห็น การทำประชาพิจารณ์ เป็นช่วงที่ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเราเป็นประชาธิปไตย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดี จะได้ออกมาแสดงความเห็น เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน พรรคภูมิใจไทยมี สส. 70 คน และเป็นตัวแทนของประชาชนหลายจังหวัด 'ผมว่าเราต้องมาพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่ดีครับ ไม่มีอะไร'
ส่วนจะสามารถพูดคุยทำความเข้าใจกับพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่นั้น นายกฯเศรษฐา กล่าวว่า 'ได้แน่นอนไม่มีปัญหาเลยครับ เป็นช่วงต้นเฉย ๆ ไม่ได้จะเร่งอะไร เป็นเรื่องที่รับฟังความคิดเห็น เพราะค่อนข้างจะเซนซิทีฟ และเป็นเรื่องดีที่มีความคิดเห็นที่หลากหลาย แล้วเราก็มานั่งคุยกันว่าตรงไหนที่เหมาะสม เป็นประโยชน์สูงสุดกับสังคมไทย'
ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่า แค่ทำประชาพิจารณ์อาจจะไม่เพียงพอ อาจจะต้องทำประชามติด้วยนั้น นายกฯเศรษฐา ระบุว่า 'เดี๋ยวค่อยมาคุยกัน อย่างที่บอกเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เป็นเรื่องที่เราพูดกันมานานมากแล้วหลายสิบปี เรื่องการพนันอย่างที่ใช้คำพูดกันว่า “สังคมอีแอบ” ก่อนหน้านี้มีการพูดกันว่าจะยกขึ้นมาบนดิน ผมเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยเห็นด้วย แต่จะยกขึ้นมาอย่างไร เป็นอย่างไร โครงสร้างอย่างไร จะมีกี่เจ้า จะเป็นอย่างไร ยืนยันพร้อมรับฟังทุกพรรค ไม่ใช่เพราะพรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคใหญ่อันดับ 2 แล้วเราฟังเขาคนเดียว ตนเองเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยก็อยากให้พรรคพลังประชารัฐเสนอลความคิดเห็นออกมา หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือพรรคชาติไทยพัฒนาของนายวราวุธ ศิลปอาชา หรือพรรคของท่านทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) ก็เหมือนกัน ไม่ต้องห่วง'
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงการประชุม ครม.วันนี้ (13 ส.ค. 67) ที่มีวาระจรของกระทรวงยุติธรรม เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอพระราชทานอภัยโทษ สำหรับบุคคลบางกรณี นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าว ปฏิเสธที่จะแสดงความ เพียงแต่ระบุสั้น ๆ ว่า 'ไม่ทราบ ไม่มี'