ที่รัฐสภา การประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ในระหว่างการพิจารณางบของกองทัพ
ธนาธร จึงรุงเรืองกิจ ที่ปรึกษา กมธ. กล่าวกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า ทหารต้องเป็นประชาธิปไตย และหากไม่พูดเรื่องการเมือง จะทำให้สง่างามและเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย
นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงการนำงบประมาณไปใช้ในปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร (ไอโอ) ที่นำมาใช้กับคนที่คิดต่างทางการเมือง โดยยืนยันว่ามีเอกสารที่เเสดงให้เห็นว่า มีการนำงบประมาณไปใช้กับปฏิบัติการนี้ ดังนั้นจึงขอให้ ผบ.ทบ.และเจ้ากรมทหารบกช่วยตอบว่า นำงบจากส่วนใดมาใช้ จะได้ตัดถูกในขั้นอนุกรรมาธิการ เพราะถือเป็นเครื่องมือทำร้ายกันทางการเมือง
พล.อ.อภิรัชต์ ยืนยันว่า ไม่เคยนำภาษีประชาชนมาใช้เพื่อคุกคามประชาชนด้วยกันเอง เพราะทหารก็คือประชาชน ปฏิบัติการไอโอนั้นถูกนำมาใช้ในกรณีภัยคุกคามจากต่างประเทศ ส่วนงบประมาณที่ใช้ไม่ใช่งบประมาณด้านการข่าว แต่เป็นการใช้งบด้านสาธารณูปโภค เช่น การจ่ายค่าโทรศัพท์หรือค่าอินเทอร์เน็ต
สำหรับการพูดถึงเรื่องรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ได้หวังให้เกิดความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตนก็คือประชาชนคนหนึ่ง
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า การดำเนินการทุกเรื่องพยายามให้มีความโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ แต่ต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปองค์กรต้องใช้เวลา จึงขอให้ทุกฝ่ายให้เวลากับกองทัพบกด้วย
ส่วนการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพบก เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล เพราะมีการลดกำลังพล และไปเพิ่มในส่วนของยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันอธิปไตยของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ในนามทหารของประชาชน
“ผมอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.อีก 50 วันข้างหน้า คุณธนาธรคงไม่เห็นผมแล้ว แต่สิ่งที่ทำเป็นการเริ่มต้นเพื่อให้กองทัพ เป็นกองทัพของประชาชนและพัฒนาได้มากขึ้น และทุกครั้งที่มีการเชิญกองทัพมาชี้แจงไม่ว่าจะเป็นกรรมาธิการหรืออนุกรรมาธิการชุดไหน ผมไม่เคยปฏิเสธ
"เชื่อว่าวันนี้ทหารเข้าใจการเมือง แต่ประชาธิปไตยเสรีภาพต้องมีขอบเขตเช่นกัน เราไม่อยากจะแบ่งแยก เพราะเราอยู่ในบ้านเดียวกัน แม้มีความเห็นต่างทางการเมือง
"ขอความกรุณาคณะกรรมาธิการฯ ช่วยพิจารณางบประมาณ เพราะกองทัพบกได้ตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็นจริงๆ ออกไปแล้ว” ผบ.ทบ.กล่าว