แฟนนางงามชาวไทยได้เฮอีกครั้ง หลังจากที่เมื่อวานนี้ (17 พ.ย.) ตัวแทนสาวไทย ‘พลอย – พีรชาดา ขุนรักษ์’ รองอันดับ 1 Miss Grand Thailand 2019 สามารถคว้ามงกุฏ เวที Face of Beauty International 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ได้เป็นผลสำเร็จ เฉือนชนะสาวงามรัสเซีย ส่วนรองอันดับ 2 ได้แก่สาวงามจากประเทศ เซาท์แอฟริกา รองอัน 3 ได้แก่ ไต้หวัน และ รองอันดับ 4 ได้แก่ บราซิล ทั้งนี้ พลอยยังพ่วงด้วยอีก 3 รางวัลพิเศษ ได้แก่ Miss APC Smile, Miss People’s Choice, Best in Swimsuits
โดย พลอย จะเดินทางกลับประเทศไทยในค่ำวันนี้ (18 พ.ย. 2562) โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ Z2 287 เวลา 20.40 แฟนนางงามสามารถไปรอรับได้ที่ อาคาร 1 ชั้น 1 สนามบินดอนเมือง
และก่อนหน้านี้ที่สาวไทยอีกหนึ่งคน ‘บิ๊นท์ - สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์’ นางสาวไทยปี 2562 ได้สร้างประวัติศาสตร์ คว้ามงกุฎแรกให้ประเทศไทย จากเวทีการประกวดมิสอินเตอร์เนชันแนลที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยหลังจากนี้ยังมีสาวไทยอีกหลายคน และหลายเวที ที่จะเดินทางไปประกวดกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละเวที ตัวแทนประเทศไทยแต่ละคนก็ถือเป็นที่โดดเด่น และน่าจับตามอง ขณะที่แฟนนางงามเอง ก็ร่วมลุ้นให้แต่ละคน สามารถคว้ามงกุฎกลับมาเช่นเดียวกับนางงามสองคนที่สร้างความสุขให้แฟนๆ ชาวไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว
สำหรับเวทีแรกที่น่าลุ้น และต้องส่งกำลังใจให้ตัวแทนประเทศไทย ได้แก่ เวทีมิสซูปราเนชันแนล ที่ได้ ‘แอน - แอนโทเนีย โพซิ้ว’ Miss Supranational Thailand 2019 สาวลูกครึ่งไทย-เดนมาร์ก วัย 22 ปี เจ้าของส่วนสูง 173 เซนติเมตร เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด ที่ประเทศโปแลนด์ ในวันที่ 6 ธันวาคมนี้ โดยเธอได้เดินทางไปประกวดเมื่อคืนวันอาทิตย์ (17 พ.ย.) ที่ผ่านมา และเดินทางถึงโปแลนด์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับแอนโทเนีย ถือเป็นอีกหนึ่งสาวงามที่แฟนๆ ชาวไทยคาดหวังว่าเธอจะสามารถคว้ามงกุฎแรกของเวทีนี้กลับมาได้ เนื่องจากเธอมีหน้าตาที่สวยโดดเด่น การเดิน Performance ที่ดี นอกจากนี้ยังมีความมั่นใจในการเดินแบบที่สั่งสมประสบการณ์มาตั้งแต่เข้าแข่งขันรายการ The Face Thailand Season 1 ในทีมพลอย เฌอมาลย์
ทั้งนี้นอกจากเรื่องของ Performance บนเวทีแล้ว แอนโทเนีย ยังเตรียมตัวมาอย่างดี ด้วยการศึกษาบริบทของเวทีแม่ มีการเตรียมตัวกล่าวสปีชเกี่ยวกับแคมเปญ Stop Body Shaming ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการประกวดเวทีนี้ และตัวเธอเองก็สนับสนุนเรื่องนี้มาตลอด รวมถึงเธอยังมีทักษะในการตอบคำถามที่ดี และพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว รวมถึงยังมีการจัดทำโพลโดยแฟนนางงาม ที่มีการจัดอันดับให้เธออยู่ในอันดับ 1 ด้วย
ขณะอีกหนึ่งเวทีที่แฟนนางงามทุกคนจับตามอง คือเวที มิสยูนิเวิร์ส ที่ ‘ฟ้าใส - ปวีณสุดา ดรูอิ้น’ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 จะเป็นตัวแทนไปประกวด ซึ่งการประกวดรอบตัดสินจะมีขึ้นที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ตรงกับช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 9 ธันวาคม 2562 เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สำหรับฟ้าใส ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงติวเข้ม กับบทเรียนเส้นทางนางงามเพื่อความพร้อมมุ่งสู่เวทีระดับสากล โดยความหวังของแฟนนางงาม คืออยากให้เธอพิชิตตำแหน่งและนำมงกุฏที่สามกลับมาให้คนไทย สำหรับการประกวด Miss Universe 2019 ด้วยความสวยที่ไม่มีที่ติ ความสามารถในการตอบคำถาม และประสบการณ์ในการประกวดนางงาม ซึ่งแฟนนางงามเชื่อว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่หล่อหลอมรวมเป็นเธอ จะสามารถผลักดันให้เธอเดินทางถึงจุดสูงสุดของการประกวดครั้งนี้ได้
ฟ้าใส ปวีณสุดา มีการเตรียมตัวอย่างหนักสำหรับหน้าที่สำคัญ เติมความพร้อมครบรอบด้าน ครบทุกทักษะเพื่อการเป็น Empowering Beauty หรือ ความงามที่ทรงพลังอย่างมีคุณค่า ทั้งทางด้านบุคลิกภาพ การฟิตแอนด์เฟิร์ม การเรียนรู้การแต่งหน้าและทำผมอย่างมืออาชีพ การฝึกทัศนคติและทักษะการตอบคำถามอย่างชาญฉลาด รวมไปถึงการเตรียมเอกลักษณ์ไทยเพื่อเผยแพร่สู่สายตาสากล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือชุดประจำชาติที่ได้ผ่านการประกวดและคัดเลือกมาแล้ว นั่นคือชุด “ผีตาโขน Festival of Thailand” ซึ่งมีที่มาจากตำนานและประเพณีมรดกท้องถิ่นไทยที่มีคุณค่า
ทั้งนี้แฟนๆ สามารถร่วมเป็นกำลังใจและร่วมส่งฟ้าใสออกเดินทางสู่จักรวาลได้ในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2562 ตั้งแต่เวลา 19.30 - 21.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประตู 9 หรือรอต้อนรับ ณ เมืองแอตแลนต้า ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮาร์ทสฟิลด์–แจ็คสัน วันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 20.10 น. (เวลาท้องถิ่นอเมริกา)
ส่วนอีกหนึ่งเวที ที่ปีที่แล้วก็สามารถสร้างความสุขให้กับแฟนๆ นางงาม ที่ ‘นิโคลีน – พิชาภา ลิมศนุกาญจน์’ สามารถคว้าตำแหน่งสูงสุดของประวัติศาสตร์นางงามไทยในเวทีนี้มาแล้ว กับตำแหน่ง รองอันดับ 1 มิสเวิลด์ 2018 โดยปีนี้ตัวแทนสาวไทย 'เกรซ - นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ’ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 จะเป็นตัวแทนไปสู้ศึกการประกวด มิสเวิลด์ 2019 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ ซึ่งเกรซเองก็ได้ 'นิโคลีน' นางงามรุ่นพี่ช่วยติวเข้ม แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสแง่ลบจากแฟนนางงาม แต่ได้นำทุกความเห็นมาปรับปรุงพัฒนาตนเอง
สำหรับหัวใจหลักของการประกวดมิสเวิลด์ คือ โครงการจิตอาสา ซึ่งโครงการของเธอ คือ "Let me hear you หัวใจมีหู" ซึ่งเป็นโครงการที่คอยช่วยเหลือ และให้คำปรึกษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้าให้กลับมาแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง โดยปีนี้เกรซได้ทำโครงการร่วมกับกรมสุขภาพจิต ซึ่งได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการนี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อสังคม ในภาวะที่สังคมเปราะบาง มีความเครียด มีข่าวเรื่องการฆ่าตัวตายของผู้วยโรคซึมเศร้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้โครงการของเธอมีความเข้มแข็งขึ้น และเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่จะไปประชันกับสาวงามจากทั่วโลก
โดยรอบตัดสินมิสเวิลด์ 2019 จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2562 ที่ Excel Arena London ประเทศอังกฤษ ผู้ชมในประเทศไทยสามารถร่วมติดตาม ชม แชร์ และให้กำลังใจตัวแทนประเทศไทย ได้ทางแฟนเพจ เฟสบุ๊ค Miss World - Thailand ทางอินสตาแกรม MISSTHAILANDWORLD_OFFICIAL และสามารถร่วมโหวต ด้วยการเข้าไปที่ www.missword.com จากนั้นเลือก Thailand
ทั้งนี้ เกรซ - นรินทร ชฎาภัทรวรโชติ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2019 จะเดินทางไปประกวด มิสเวิลด์ 2019 ในคืนวันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายนนี้ เวลา 21.00 น ที่ สนามบินสุวรรณภูมิ
ปิดท้ายอีกหนึ่งเวที สำหรับการประกวดสาวประเภทสอง เวที มิสทรานส์สตาร์ อินเตอร์เนชันแนล ที่ครั้งนี้จัดการประกวดที่เมืองบาเซโลนา ประเทศสเปน ในวันที่ 14 ธันวาคม โดยตัวแทนประเทศไทยในปีนี้คือ ‘หมอผักบุ้ง - วลัญช์ภัทร์ มะยม’ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโรคผิวหนัง อายุ 31 ปี
ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ที่ได้รับมงกุฏของเวทีดังกล่าว คือ ‘แคนดี้ - กุลชญา ตันศิริ’ มิสทรานส์สตาร์ไทยแลนด์ 2018 สาวข้ามเพศตัวแทนประเทศไทย โดยปีก่อนหน้า ‘บิวตี้ - กณิศนันท์ พรอัจฉริยพณิช’ มิสทรานส์สตาร์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2017 ก็สามารถคว้ามงกุฎใหญ่จากเวทีนี้มาแล้วเช่นกัน