วันที่ 19 ต.ค. การชุมนุมวันที่ 6 ของกลุ่มราษฎร นัดรวมตัวกันที่ แยกเกษตร หน้า ม.เกษตรศาสตร์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยมีการปิดจราจร ถ.งามวงศ์วาน ฝั่งขาออกมุ่งหน้า ถ.วิภาวดี และเดอะมอลล์งามวงศ์วาน
การชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ชุมนุมผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นปราศรัยมากหน้าหลายตา ตั้งแต่นักเรียนระดับมัธยมศึกษา มหาวิทยาลัย กระทั่งคนทำงาน
ตลอดการชุมนุมมีการส่งเสียงโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง เช่น "ประยุทธ์ออกไป" รวมถึงประกาศย้ำว่า "ไม่มีใครเป็นแกนนำทั้งสิ้น" ทุกคนถือเป็นแกนนำทั้งหมด พร้อมทั้งตะโกนให้ปล่อยตัวแกนนำและหยุดคุกคามประชาชน
"ปล่อยเพื่อนกู" ผู้ชุมนุมกล่าว
สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ 'จ่านิว' อดีตแกนนำนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวปราศรัยกลางสี่แยกอธิบายถึงความสำคัญของ อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญหรืออนุสาวรีย์ปราบกบฏบวรเดช ที่ถูกทุบเเละรื้อถอนจากวงเวียนหลักสี่ อย่างไร้ร่องรอย
จ่านิว ยังกล่าวโจมตีการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะ ส.ว. ที่ทำหน้าที่หลักเพียงแค่ปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น เมื่อคิดถึงภาษีที่ประชาชนต้องจ่าย นับว่าไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลเอง ถึงเวลาเเล้วที่ต้องตัดสินใจเลือกข้างประชาชน
"ถ้ามีสปิริตเพียงพอ ยังเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ช่วยกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน"
อดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง กล่าวว่า แม้จะมีการชุมนุมเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง แต่ฝ่ายรัฐก็ยังเพิกเฉย และกลับทำทุกอย่างเพื่อรักษาตำแหน่งให้ นายกฯ เเม้ต้องแลกกับการคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชน
สิรวิชญ์ ยังได้กล่าวเหน็บแนมหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลด้วยว่า ฝีมือและความสามารถต่ำกว่า "หน่วยข่าวแกง" ของราษฎร หลังถูกล่อลวงจากกลุ่มผู้ชุมนุมมาเสมอ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
