นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงสาระสำคัญกระบวนการบังคับใช้และการเตรียมการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จะเริ่มจัดเก็บในปี 2563 ว่า การบังคับใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้เริ่มบังคับใช้เป็นกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2562
โดยตามกำหนดเดิม เริ่มการจัดเก็บภาษีตั้งแต่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป แทนการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ที่ถูกยกเลิกไป และผู้เสียภาษี ได้แก่ ผู้ที่มีชื่อเป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างทุกคน ณ วันที่ 1 ม.ค. 2563
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศขยายระยะเวลาการดำเนินการให้แก่เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ต้องตามปฏิบัติงานขั้นตอนจัดเก็บภาษีเพื่อให้มีเวลาทำงานมากขึ้นสำหรับปี 2563 ซึ่งเป็นปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ เท่านั้น เช่น เลื่อนการแจ้งประเมินภาษี จากเดือน ก.พ. เป็นภายในเดือน มิ.ย. และเลื่อนกำหนดเวลาการชำระภาษีจากเดือน เม.ย. เป็นเดือน ส.ค. เป็นต้น อันเป็นประโยชน์ต่อผู้เสียภาษีอีกทางหนึ่ง
โดยภาษีที่ดินฯ เป็นการเก็บภาษีจากเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามมูลค่าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถือครอง โดยอัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บจะดูจากการใช้ประโยชน์ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยอัตราภาษี 4 ประเภท ได้แก่
ผู้เสียภาษีจะต้องเสียภาษีทุกปี และต้องชำระภายในเดือน เม.ย. ของปีนั้นๆ เช่นเดียวกับการชำระภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดิน ซึ่งถูกยกเลิกไป (ยกเว้นปี 2563 สามารถชำระภาษีได้ถึงเดือน ส.ค.)
การหามูลค่าของที่ดิน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ รวมทั้งห้องชุด ให้นำราคาประเมินทุนทรัพย์ (ราคาประเมินฯ) ของกรมธนารักษ์มาใช้คำนวณ และสำหรับปี 2563 นี้ให้นำบัญชีราคาประเมินฯ ปี 2559 - 2562 มาใช้
นอกจากนี้ ภาษีที่ดินฯ เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แก่ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา (ไม่รวมองค์การบริหารส่วนจังหวัด) เพื่อนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่น
แจงข้อยกเว้น-ลดหย่อนการจัดเก็บภาษีแต่ละประเภทการใช้งาน
สำหรับการประกอบเกษตรกรรม มีการบรรเทาภาระภาษีให้แก่เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่ใช้ทำประโยชน์เกษตรกรรม จะได้รับยกเว้นภาษีในปี 2563-2565 (3 ปี) และตั้งแต่ปี 2566 จะได้รับการยกเว้นมูลค่าของฐานภาษีในแต่ละ อปท. รวมกันไม่เกิน 50 ล้านบาท
สำหรับที่อยู่อาศัย มีการบรรเทาภาระภาษีสำหรับบ้านหลังหลัก 1 หลัง ซึ่งบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่อในทะเบียนบ้านดังกล่าวในวันที่ 1 ม.ค. ดังนี้
1) กรณีมีชื่อเป็นเจ้าของทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุด จะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับมูลค่าที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท หรือ
2) กรณีมีชื่อเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว (ปลูกสร้างบนที่ดินบุคคลอื่น) จะได้รับยกเว้นภาษีสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่มูลค่าไม่เกิน 10 ล้านบาท แล้วแต่กรณี
สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่บุคคลธรรมดามีชื่อเป็นเจ้าของ แต่ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านและไม่ได้นำไปให้เช่า จะถือเป็นบ้านหลังอื่น ซึ่งต้องเสียภาษีตามปกติ
ในส่วนของการบรรเทาภาระภาษี ผู้ที่เคยเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินหรือภาษีบำรุงท้องที่ และต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นจากเดิมเนื่องจากกฎหมายนี้ จะได้บรรเทาภาระภาษีของส่วนต่างเมื่อเทียบกับภาษีที่เคยเสียในปี 2562 ดังนี้
- ปีที่ 1: ภาษีเดิมปี 2562 + 25% ของส่วนต่าง
- ปีที่ 2: ภาษีเดิมปี 2562 + 50% ของส่วนต่าง
- ปีที่ 3: ภาษีเดิมปี 2562 + 75% ของส่วนต่าง
ทั้งนี้ ขั้นตอนที่ผู้เสียภาษีควรให้สำคัญเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มี 3 ขั้นตอน ดังนี้
1) ตรวจสอบบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า มีการระบุประเภท ขนาด และลักษณะการใช้ประโยชน์ว่าถูกต้องหรือไม่ หากผู้เสียภาษีพบว่า บัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของตนเองไม่ถูกต้อง สามารถยื่นคำร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อขอแก้ไขให้ถูกต้องได้
2) ตรวจสอบแบบประเมินภาษีที่ อปท. แจ้งประเมินภาษีแก่ผู้เสียภาษี โดยผู้เสียภาษีจะต้องตรวจสอบการประเมินภาษีดังกล่าวว่า ใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์และอัตราภาษีตรงตามมูลค่าและการใช้ประโยชน์หรือไม่ รวมถึงการคำนวณภาษีว่าถูกต้องหรือไม่ หากผู้เสียภาษีพบว่า การประเมินภาษีไม่ถูกต้อง สามารถยื่นเรื่องคัดค้านและอุทธรณ์ตามกระบวนการต่อไป
3) ชำระภาษีภายในเวลาที่กำหนด โดยกระทรวงมหาดไทยประกาศขยายเวลาในการชำระภาษี ให้สามารถชำระได้ภายในเดือน ส.ค. 2563 เพื่อจะไม่ต้องเสียเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม รวมไปถึงอาจถูกระงับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ยังคงมีภาระภาษีค้างชำระอยู่
อีกทั้งกระทรวงการคลัง ยังย้ำว่าภาษีที่ดินฯ เป็นภาษีทรัพย์สินแบบใหม่ที่จะเริ่มนำมาใช้ในปี 2563 เป็นปีแรก กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยในฐานะหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลภาษีที่ดินฯ ได้เร่งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้กระบวนการจัดเก็บภาษีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อีกทั้ง กระทรวงการคลังจะได้หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยาและ อปท. ต่าง ๆ ในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. 2562 นี้ เพื่อซักซ้อมความรู้ความเข้าใจและแนวทางในการปฏิบัติจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นมาตรฐานเดียวกัน พร้อมทั้ง จะได้เร่งประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจทราบโดยทั่วกันโดยเร็วต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :