วันที่ 26 ม.ค. ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณายกเว้นการตรวจลงตาหนังสือเดินทาง (วีซ่า) เชงเก้น สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยในการเดินทางไปยังสหภาพยุโรป
กาญจนา กล่าวว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน เพื่อยกระดับ และเพิ่มคุณค่า ตลอดจนเพิ่มศักดิ์ศรีของหนังสือเดินทางไทย แต่ในแง่ของการปลอมแปลงหนังสือเดินทางไทยนั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะหนังสือเดินทางไทยใช้เทคโนโลยีฝรั่งเศส รวมทั้งในยุโรปมีการตรวจสอบแบบดิจิทัลจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก
ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการยกเว้นวีซ่าให้แก่หลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักสำหรับภาคการท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยจะเป็นการเจรจาในลักษณะตอบแทนกันและกันนั้นถือว่าเป็นไปค่อนข้างยาก
สำหรับประโยชน์ที่เห็นแน่ชัดจากการยกเว้นวีซ่าเชงเก้น คือการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน กล่าวคือ ให้ประชาชนไทย และประชาชนยุโรปสามารถพำนักอยู่ในไทยได้นานกว่า 30 วัน เนื่องจากชาวยุโรปนั้นชื่นชอบการมาไทย โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือหน้าหนาวก๋จะพำนักกันอย่างน้อย 1-2 เดือนขึ้นไป
กาญจนา กล่าวว่า ทางการไทยคงใช้วิธีพูดซ้ำๆ หรือเจรจาเพื่อโน้มน้าว โดยยกเหตุผลข้างต้นในการพิจารณา พร้อมยอมรับว่า กระบวนการพิจารณาเรื่องดังกล่าวนั้นไม่น่าจะรวดเร็ว เพราะกระบวนการภายในของสหภาพยุโรปนั้น ต้องรอรอบของการปรับภายใน จึงไม่สามารถให้ทางสหภาพยุโรปปรับให้เราได้ทันที แต่เมื่อมีการปรับตามรอบแล้วก็จะสามารถนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปพิจารณาได้
สำหรับความคืบหน้าในการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปนั้น กาญจนา กล่าวว่า แม้สัปดาห์นี้จะมีการเจรจารอบที่ 2 แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปผลได้ เพราะเป้าหมายที่ทั้งสองฝ่ายตั้งไว้คือ ให้แล้วเสร็จในปี 2568 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างทะเยอทะยาน เนื่องจากมีประเด็นมากมาย ที่ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งความคาดหวังไว้จึงต้องมีการเจรจาในครั้งที่ 3 ณ ประเทศเบลเยี่ยม ต่อไป