ไม่พบผลการค้นหา
'สว.สมชาย' เชื่อหากชี้แจงให้ชัด 'ทักษิณ' ป่วยเป็นโรคอะไร สังคมยอมรับได้ เตือนผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่นายกฯ-รมต.-ขรก. ระวังผิดกฎหมาย

วันที่ 19 ก.พ. ที่อาคารรัฐสภา สมชาย แสวงการ สว. กล่าวถึงกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาพักโทษ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพักโทษตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์มาตรา 52 (7) ไม่ใช่พ้นโทษ ยังเหลืออีก 6 เดือน ฉะนั้นสิ่งสำคัญคือยังเป็นนักโทษเด็ดขาด ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามระเบียบ สิ่งที่หลายฝ่ายพยายามพูดหรือบอกสังคม ในการเคลื่อนไหวต่างๆขอให้พิจารณาให้รอบคอบว่าดำเนินการตามกฎหมายหรือไม่ สังคมก็ตั้งคำถามอยู่แล้วถึงเรื่องกระบวนการยุติธรรมก็จะติดตามต่อไปว่าการพักโทษ มีกติกาเคร่งครัดอย่างไร สิ่งที่ครอบครัวบอกว่าจะทำนู่นนี่ พึงพิจารณาให้รอบคอบ 

"ไม่เช่นนั้นถ้าเป็นฝ่ายบริหารของรัฐบาล ฝ่ายต่างๆทางการเมือง อาจจะเข้าข่ายการกระทำความผิด แล้วทำให้นายทักษิณที่อยู่ระหว่างการพักโทษ กลับมาถูกยกเลิกพักโทษ ผมขอเรียนด้วยความปรารถนาดี ซึ่งครอบครัวก็คงดีใจที่ได้กลับมา แต่สังคมก็คงตรวจสอบกันต่อ"

สมชาย กล่าวว่า ประการถัดมาเรื่องนี้อาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายเดินหน้าตรวจสอบและตั้งสติให้ดี ให้ใช้กระบวนการทางกฎหมาย เช่น คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของ ทักษิณ คงไม่มีปัญหาเพราะใช้ช่องทางทางกฎหมาย แต่ส่วนที่ต้องถูกตรวจสอบ คือฝ่ายปฏิบัติซึ่งมีองค์ประกอบคือฝ่ายบริหาร คนที่เกี่ยวข้องคือนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกรทะทรวงยุติธรรม ในฐานผู้กำกับดูแลหน่วยราชการทั้งหมดจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ 

“การปฏิเสธไม่รับทราบ ไม่อยู่ในส่วนที่ไม่รับผิดทางกฎหมาย เป็นเรื่องที่ ป.ป.ช. ต้องสอบ ก็มีคดีที่เคยเกิดขึ้นแล้ว กรณีจำนำข้าวของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่วนที่ 2 คือกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไล่ไปตั้งแต่ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ถ้าเรื่องนี้ใช้คณะกรรมการพักโทษ ก็ต้องไปดูว่าคณะกรรมการพิจารณาถูกต้องหรือไม่ ถ้าทำแล้วผิดกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดี แบบจำนำข้าว ที่ข้าราชการทระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่อธิบดีจนถึงผู้อำนวยการต้องติดคุก” สมชาย กล่าว

สมชาย กล่าวอีกว่า อีกส่วนที่ต้องรับผิดชอบคือโรงพยาบาลตำรวจ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ปฏิเสธไม่ได้และใครจะปรับปรุง ปรุงแต่ง แก้ไข บิดเบือน ถือว่ามีความผิด หลักฐานสำคัญคือเวชทะเบียน การแถลงของแพทย์ใหญ่ที่ทำมาโดยตลอด แถลงว่าเจ็บป่วยต่อเนื่องร้ายแรง 

“วิกฤตร้ายแรงสำหรับผู้ป่วยผมคิดว่าทุกคนทราบดีต้องเป็นโรคเอดส์ขั้นสุดท้าย มะเร็งขั้นที่ 4 ไตวายเรื้อรัง อันนั้นเรียกว่าร้ายแรง แต่เท่าที่คณะกรรมาธิการของวุฒิสภาตรวจสอบมา ตามที่นายทักษิณได้ยื่นตั้งแต่เข้าประเทศไทย เป็นใบรับรองแพทย์จากสิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ความดันโลหิตสูง กระดูกเสื่อม เส้นเลือดหัวใจตีบ และโรคปอด” สมชาย กล่าว

สมชาย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค และ กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนโรงพยาบาลตำตรวจและกรมราชทัณฑ์มา ก็ไม่ได้รับคำตอบ ยืนยันว่าไม่ต้องการแทรกแซงสิทธิผู้ป่วย แต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าที่ผ่านมามีการอ้างสิทธิ์มาโดยตลอด ทำให้กมธ.ทั้ง 2 คณะ สรุปว่า ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไร 

สมชาย ยังเรียกร้องให้ ป.ป.ช. ทำหน้าที่ตรวจสอบเหมือนหลายคดีที่ผ่านมา โดยตนสนับสนุนนายทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไทย แต่สังคมก็ตั้งข้อสงสัยว่าไม่ได้อยู่ในเรือนจำแม้แต่คืนเดียว เป็นการกระทำโดยชอบหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างอ้างว่าไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเอง เมื่อไม่ได้รับคำตอบ ป.ป.ช. ก็ต้องไปตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ 

เมื่อถามว่า มองภาพที่ ทักษิณ ออกมา มีแค่เฝือกอ่อนที่แขนและคออย่างไร สมชาย กล่าวว่า สังคมก็ตั้งคำถามเอง ตนไม่วิพากษ์วิจารณ์ เพราะนิยามคำว่าป่วยร้ายแรง ประชาชนเขามีสามัญสำนึกว่าหมายความว่าอย่างไร ทักษิณ อาจจะป่วยก็ได้ แต่คำแถลงของกรมราชทัณฑ์ กับโรงพยาบาลตำรวจไม่ชัดเจนเอง

“ถ้าชี้แจงชัดเจน ผมว่าสังคมรับได้ ผมไม่ได้แช่งหรืออะไร แต่ถ้าป่วยร้ายแรงผมเชื่อว่าสังคมไทยเป็นสังคมพุทธ มีความโอบอ้อมอารี ถ้าตัวท่านใกล้จะเสียชีวิตแล้ว หรือท่านอันตรายอย่างยิ่ง ผมว่าคนไทยไม่ใจไม้ไส้ระกำ เพียงแต่วันนี้ เราไม่ได้รับคำยืนยัน วันนี้ยังไม่สาย คุณทักษิณก็ดี ญาติพี่น้องก็ดี หรือแพทย์ใหญ่แถลงตรงไปตรงมา ผมว่าทุกคนก็จบ กมธ.ตรวจสอบ 180 วัน เชิญทั้งหมอจริง หมอปลอมมา และเปลี่ยนคนมาตลอดเวลา คนที่มาชี้แจงผมไม่รู้โดนย้ายไปกี่คนแล้ว เปลี่ยนหน้ามาตลอด เราก็เห็นใจข้าราชการ แต่ผลเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นคนที่รับผิดชอบคือคนที่ปฏิบัติหน้าที่ ” สมชาย กล่าว

ส่วนในการอภิปรายทั่วไป ของ สว. ที่จะเกิดขึ้นจะได้รับคำชี้แจงว่าเป็นประโยชน์เรื่อง ทักษิณ หรือไม่ สมชาย กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “ไม่ทราบเขาจะเลื่อนอีกหรือไม่ เลื่อนจนหมดวาระกระมัง ก็เคยทำมาอยู่แล้วในอดีต หมด 9 เม.ย. ก็เลื่อนแล้ว ตอนนี้ก็เลื่อน พ.ร.บ. งบประมาณมาแล้วใช่หรือไม่ ถ้าเลื่อนมาใกล้ การอภิปรายก็จะถูกข้ามออกไป แต่ก็ยังอภิปรายได้เพราะยังไม่รับรองสว.ใหม่ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ ผมคิดว่าสังคมตั้งคำถามได้อยู่แล้ว คนก็ตั้งคำถามอยู่ในใจ”

สมชาย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาใจของคน ผิดก็ว่าไปตามผิด จริงอยู่ว่าไม่อยากจะบอก ถ้าสมมติบอกว่าเป็นเอดส์ แต่คงไม่ใช่ ถ้าป่วยร้ายแรงสาหัส ตนคิดว่าคนไทยไม่ติดใจ และตนเคยพูดกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้จัดห้องพิเศษให้ ทักษิณ จะได้ยืนยันว่าเข้าสู่กระบวนการ ตอนนี้สังคมเกิดความเคลื่อนไหวต่อต้าน เพราะมีความรู้สึกว่าไม่ได้เข้ากระบวนการ แต่กระทรวงยุติธรรมก็ยืนยันว่าเข้ากระบวนการแล้ว ซึ่งถามว่าเรียกได้ว่าเป็นศรีธนญชัยทางกฎหมายหรือไม่ ตนคิดว่าเรียกได้