วันนี้ (12 ธ.ค.2567) นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการถกเถียงถึง ร่างพ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ว่าพรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าอย่างไรนั้น ในข่อเท็จจริง ร่าง พ.ร.บ. หรือกฎหมายใดที่ต้องตราโดยรัฐสภา เป็นเรื่องที่สมาชิกสภาผู้เเทนราษฎร จะต้องมาถกเถียงกัน เเสดงความเห็นต่อกันเพื่อลงมติ ก่อนนำไปสู่กระบวนการออกกฎหมายเพื่อนำมาใช้บังคับ ซึ่งการนำเสนอกฎหมาย สามารถนำเสนอได้หลายช่องทาง ทั้งจากภาคประชาชน ภาคส่วนราชการ รัฐบาล รวมถึงสมาชิกสภาผู้เเทนราษฎรเข้าร่วมชื่อกันเพื่อเสนอกฎหมาย
ในขั้นตอนของร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม เป็นขั้นตอนที่ทางกระทรวงกลาโหมร่วมกับทางกองทัพเพื่อปรับปรุงกฎหมายการจัดระเบียบราชการภายในกระทรวงให้มีความทันสมัย เท่าทันต่อการเปลี่ยนเเปลงสถานการณ์ของสังคม ภารกิจต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันประเทศเเละการคุ้มครองของรัฐ ดูเเลพี่น้องประชาชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อทางกระทรวงได้ปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าวเเล้วเสร็จ ก็ต้องเสนอมายัง ครม.เพื่อขอความเห็นต่อหน่วยงานต่าง ๆ ก่อนนำเสนอเป็นร่างของรัฐบาลเพื่อนำเข้าสู่สภาผู้เเทนราษฎรตามกระบวนการ
นายจิรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของร่าง พ.ร.บ. จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่นำเสนอโดย สส.ท่านหนึ่งของพรรคเพื่อไทย เป็นเอกสิทธิความเห็นส่วนตัวที่สามารถนำเสนอเพื่อเป็นวาระให้สังคมช่วยกันถกเถียงได้ เเต่เห็นว่าร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นจะถือว่าเป็นร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทยเเล้วคงไม่ได้ เพราะร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เเละที่ประชุมของพรรคแต่อย่างใด
ส่วนที่มี สส.พรรคฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมว่า ท่านมาเป็นรัฐมนตรีเพื่อรับใช้ทหาร คอยปกป้องอำนาจ ปกป้องผลประโยชน์ให้กองทัพ ส่วนตัวเห็นว่า คงเป็นการใช้อคติเเละมุมมองที่คับเเคบเกินไป
“รัฐบาลก่อตั้งมาเพื่อประโยชน์ของประชาชน คงไม่ได้มุ่งหวังว่าจะต้องมารับใช้หน่วยงานราชการใดหน่วยงานราชการหนึ่ง เเละหน่วยงานทุกส่วนราชการก็ต้องมีส่วนในการช่วยผลักดันการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงกลาโหมเเละกองทัพก็ต้องทำงานร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนประชาชนคนไหนไม่ปฎิบัติตามกฎหมายหรือเคยหลีกหนีทหารก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป” นายจิรวัฒน์ กล่าว